ถาม : คุณยายอายุ ๘๐ ปีกว่า ต้องการถวายที่ดิน ๒ แปลงให้วัด แต่ละแปลงเนื้อที่ไม่ถึง ๑ ไร่ มีบ้านเช่า ให้ญาติพักอยู่ดูแลให้ (แต่ไม่ค่อยเก็บเงินส่งให้คุณยาย) ทั้งสองแปลงอยู่คนละจังหวัด มีราคาสูงพอสมควร พอไปเสนอเจ้าอาวาสวัดหนึ่ง ท่านให้จดทะเบียนเป็นของวัดเลยเพื่อที่วัดจะได้ไม่ต้องมีปัญหาฟ้องร้องเป็นคดีในอนาคต โดยทางเจ้าอาวาสจะให้ลูกศิษย์มาพักดูแลให้ คุณยายตกลงใจจะจดทะเบียนโอนให้วัด แต่ขอทำสัญญาให้คุณยายมีสิทธิ์เก็บค่าเช่า ให้คนดูแล (ที่วัดมอบหมาย) โอนเงินค่าเช่าเข้าบัญชีจนกว่าคุณยายจะเสียชีวิต และหากญาติที่อยู่ปัจจุบัน ถ้าหาที่อยู่ไม่ได้ ก็ให้มีสิทธิ์เข้ามาอยู่ในที่ดินได้
ตอนแรกข้าพเจ้าเห็นคุณยายกังวล จึงอยากจะช่วยให้สบายใจ แต่มาคิดรู้สึกสงสัย การจดทะเบียนตามความประสงค์ของคุณยายไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่การที่คุณยายยกถวายจดทะเบียนที่ดินให้วัดไปแล้ว ที่ดินต้องเป็นธรณีสงฆ์ เป็นของวัด ไม่ใช่ของคุณยาย คุณยายได้ค่าเช่ามาใช้จะเป็นหนี้สงฆ์หรือไม่ ?
ตอบ : ไม่เป็น...เพราะก่อนจะเป็นของสงฆ์ยังเป็นของยายอยู่ และมีการระบุเจตนารมณ์ในสัญญาชัดเจนอยู่แล้ว แต่ถ้าทำอย่างที่ว่ามาจะมีปัญหาภายหลังตรงญาติ เพราะดันไประบุว่าถ้าญาติเดือดร้อนก็เข้ามาอยู่ได้ ต่อให้ยายตายไป ๕ ปี หรือ ๑๐ ปี สัญญานั้นก็ยังมีผลอยู่
เพราะฉะนั้น...การจดทะเบียนต้องระบุว่าทุกอย่างจะสิ้นสุดลงเมื่อยายเสียชีวิตแล้ว ไม่อย่างนั้นญาติสามารถอ้างสิทธิ์แล้วเข้ามาอาศัยอยู่ได้ตามสัญญา พระท่านก็ไม่รู้จะไปคัดง้างอย่างไร เพราะว่าในสัญญาระบุไว้ชัดอย่างนั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2019 เมื่อ 14:56
|