พระอาจารย์กล่าวกับญาติโยมอายุมาก ที่มีลูกหลานประคองมาว่า "ภารา หเว ปัญจักขันธา ขันธ์ ๕ คือร่างกายนี้เป็นภาระยิ่งหนอ
นึกถึงตอนสมัยหนุ่ม ๆ อายุ ๓๐ กว่า นั่งที่บ้านอนุสาวรีย์ตั้งแต่ ๗ โมงครึ่งยัน ๓ ทุ่มทุกวัน มีเวลาลุกไปฉันอาหารกับเข้าห้องน้ำเท่านั้น ก็นั่งอยู่ได้ สมัยนี้เปลี่ยนจาก ๓๔ ปี เป็น ๕๘ ปี ไม่ไหวแล้ว ถ้าไม่ได้พักจะนั่งคอพับไปเลย
วันก่อนเจอโยมที่รู้จักกันตั้งแต่ฆราวาส ไปหาหลวงพ่อบ๊ะด้วยกัน โยมเจอก็ดีใจ มายกมือไหว้ ถามว่าจำได้ไหม ? อาตมาเลยบอกชื่อบอกนามสกุลไป ถามว่าสุขภาพโยมเป็นอย่างไรบ้าง ? โยมบอกว่า "เต็มทีครับ ๘๐ แล้ว" ยังถามกลับว่า "หลวงพี่เป็นอย่างไรบ้างครับ ?" "ก็มาหาหมอ...โยมเห็นว่าเป็นอย่างไรล่ะ ?"
ญาติโยมบางคนพออายุมากหน่อยก็เริ่มถอดใจ อาตมายืนยันว่า ถ้าอยู่ได้มีแก่กว่านั้นอีก ตอนอาตมาบวชใหม่ ๆ อายุ ๒๐ กว่า เฝ้าหน้าห้องให้หลวงพ่อวัดท่าซุง หน้าหนาวใส่อังสะตัวเดียว จีวรยังไม่ห่มเลย หลวงพ่อท่านเดินเข้าตึกมาถามว่า "แกไม่มีเครื่องกันหนาวหรือ ?" กราบเรียนท่านว่า "ยังไม่หนาวครับ" เพราะว่าหลวงพ่อท่านใส่ทั้งอังสะไหมพรม ทั้งถุงเท้า ทั้งหมวกไหมพรม"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-02-2019 เมื่อ 02:18
|