"ตั้งแต่อาตมาเป็นเจ้าคณะตำบลมา งานในมือมีมากขึ้น โดยเฉพาะบังคับรายงานการตรวจการณ์คณะสงฆ์ ไปแล้วเจอใคร ให้คำแนะนำว่าอะไร ครั้งต่อไปต้องตามงานนั้นด้วย
เจ้าคณะภาค ๑๔ ท่านดุเดือดมาก เร่งรัดทุกอย่างแทบไม่มีเวลาหายใจ ตอนนี้คำสั่งวิ่งตรงจากภาคถึงวัดเลย ไม่ผ่านจังหวัด ไม่ผ่านอำเภอ อาตมาเจอหลวงพ่อพรหมดิลก ท่านถาม "เป็นอย่างไรบ้างวะเล็ก ?" กราบเรียนว่า "ขออภัยครับหลวงพ่อ เหนื่อยฉิบหา...เลย สมัยหลวงพ่อเป็นเจ้าคณะภาค ผมไม่เห็นจะเหนื่อยเท่านี้ ตอนนี้ท่านเรียกใช้หัวไม่วางหางไม่เว้น" ท่านบอกว่า "ดี...ผู้บังคับบัญชาเรียกใช้ แสดงว่าท่านเห็นความสามารถ" เลยกราบเรียนท่านแบบขำ ๆ ว่า "ผมยอมเป็นคนไม่มีความสามารถจะดีกว่า"
แต่ว่าชอบใจท่านเจ้าคณะภาคอยู่อย่างหนึ่ง คือ ถวายอะไรท่านไม่รับหรอก ท่านบอกว่าท่านมีแล้ว มีเยอะกว่าด้วย ถ้าคุณขาดบอกผมแล้วกัน จัดโครงการบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ท่านถามว่าขาดอะไรบ้าง ? ผ้าไตรขาดไหม ? วิทยากรขาดไหม ? เงินขาดไหม ? ขาดอะไรให้บอก ไปขอสนับสนุนจากท่านได้
เพิ่งเจอเจ้านายแบบนี้ ประเภทสนับสนุนแม้กระทั่งเงิน ที่ผ่านมาเจอสนับสนุนแค่สิ่งของ หรือไม่ก็ออกนโยบายให้พวกเราไปดิ้นรนทำกันเอง ไปวัดนิมนต์ไปถวายปัจจัยไทยธรรมก็ไม่รับ ท่านบอกว่าผมมีมากแล้ว แล้วนิมนต์ก็ไม่เคยไป นิมนต์มา ๕ ครั้ง ท่านไม่เคยไปวัดท่าขนุน เพราะว่าส่วนใหญ่เป็นงานทำบุญครบรอบปีบ้าง งานฉลองบ้าง ท่านบอกว่างานแบบนั้นได้ประโยชน์น้อย ท่านไปที่อื่นดีกว่า
แต่ที่ไปท่านไปเองนะ ไม่ได้นิมนต์ ผ่านไปเมื่อไรก็แวะตรวจ ไปไม่เป็นเวล่ำเวลา นึกอยากจะไปเมื่อไรก็ไป ไปวัดไหนท่านก็เดินเข้าไปดูว่า ทำงานตามที่ท่านสั่งหรือเปล่า ?"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 03-05-2017 เมื่อ 15:52
|