พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่นี้กล่าวถึงศาสนาพุทธกับลัทธิบอนในทิเบต บางคนสงสัยว่าศาสนากับลัทธิต่างกันตรงไหน ? ศาสนาต้องประกอบไปด้วย ๑) ศาสดา คือผู้ก่อตั้งศาสนานั้น ๒) ศาสนธรรม คือคำสอนแนวทางการปฏิบัติของศาสนานั้น ๓) ศาสนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นตัวของนักบวชก็ดี หรือสาวกผู้ปฏิบัติตาม ๔) ศาสนพิธี พิธีกรรมต่าง ๆ ในศาสนานั้น
คราวนี้เรามาดูว่าบางอย่างที่เรียกว่าลัทธิ เช่น ลัทธิคอมมิวนิสต์ มีศาสดาไหม ? มี...คาร์ล มาร์กซ์ แล้วมีคำสอนไหม ? มี...ก็ลัทธิมาร์กซิสต์ แล้วมีผู้ปฏิบัติตามไหม ? มี...ปัจจุบันนี้มีเยอะเลย แต่ไม่มีศาสนพิธี จึงเป็นได้แค่ลัทธิ ในเมื่อมีไม่ครบก็เป็นศาสนาไม่ได้ เป็นได้แค่ลัทธิเท่านั้น อย่างเช่น ลัทธิฝ่าหลุนกง ลัทธิโอมชินริเกียว ลัทธิคอมมิวนิสต์
เวลาเขาถามจะได้ตอบเขาถูกว่าต่างกันตรงไหน ก็ต่างกันอย่างนี้แหละ มีครบก็เป็นศาสนา มีไม่ครบก็เป็นได้แค่ลัทธิ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2017 เมื่อ 02:03
|