"ตอนที่หลวงพ่อสิงห์ทองท่านยังอยู่ มีคุณนายท่านหนึ่งเอาลิ้นจี่ไปถวาย คราวนี้ถ้าเอาไปถวายทั้งพวงพระธรรมยุตท่านฉันไม่ได้ ท่านถือว่ายังงอกเป็นต้นได้ ก็ต้องมีการปอกเสียก่อน คราวนี้มีคนใจเดียวกันเอาลิ้นจี่ไปถวายหลายคน คุณนายท่านก็ปอกของคนอื่นกองขึ้นมาเรื่อย แล้วเอาของตัวเองโปะหน้าไว้ อย่างไรหลวงพ่อก็ต้องฉันของเราแน่ ๆ
ปรากฏหลวงพ่อสิงห์ทองรับมา ท่านใช้นิ้วล้วงเข้าไปข้างใน หยิบจากข้างใน สั่งสอนให้เห็นซึ่ง ๆ หน้าเลย คือพระธรรมยุตเวลาท่านฉัน หัวแถวรับแล้ว หยิบหรือตักในส่วนที่ตัวเองพอใจ จากนั้นส่งให้ท่านที่ ๒ ที่ ๓ ที่ ๔ ไปจนท้ายแถว สมัยหลังใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ใช้ถาดไม้ลักษณะเหมือนกับตั่งเล็ก ๆ แล้วมีล้อเข็น ถึงเวลาโยมเขาวาง ท่านตักเสร็จก็เลื่อนต่อไปเรื่อย ๆ แต่สมัยอาตมาวิ่งรับใช้ครูบาอาจารย์รุ่นนั้นอยู่ อย่างดีก็ส่งถาดส่งจานต่อ ๆ กันไป
คุณนายทำอยู่ในครัว หลวงพ่อไม่ได้ไปเห็นด้วยหรอก แต่ท่านรู้ว่าเขาคิดอย่างไร ก็เลยสอนให้รู้ว่าให้ทานแล้วต้องรู้จักอุเบกขา พอถึงเวลาส่งจานมาประเคน ท่านก็ล้วงเอาตรงกลาง รับประกันคุณนายคิดไม่ได้หรอก นอนไม่หลับไปเป็นอาทิตย์อย่างแน่นอน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-04-2017 เมื่อ 18:06
|