ถาม : ปฏิฆะกับโทสะต่างกันอย่างไรคะ
ตอบ : ปฏิฆะมันเป็นตัวกระทบ โทสะนั่นอารมณ์มันเกิดแล้ว ปฏิฆะพอกระทบแล้วความรู้สึกมันเกิด แต่ว่ามันเกิดในลักษณะเหมือนกับว่าสะเก็ดไฟมันกระทบเชื้อ แต่โทสะนี่มันไหม้เป็นเปลวแล้ว
ถาม : แล้วอย่างเวลาอารมณ์ที่มันกระทบ มันยังไม่ได้ไปลงที่ตัวโทสะ
ตอบ : มันจะดีหรือไม่ดีมันเป็นปฏิฆะแล้ว ถ้าปรุงเมื่อไหร่ไปทันที เพราะฉะนั้นอย่าเป็นแม่ครัว
ถาม : อย่างสังเกตถ้าเป็นอารมณ์กระทบที่ไปในทางไม่พอใจ มันก็ไปลงที่ถือตัวถือตนอยู่ดี
ตอบ : มันบวกกัน มันจะต้องมีมานะ เมื่อมีมานะมันก็ก่อให้เกิดโทสะ
ถาม : แล้วอย่างเวลาที่เราเกิดอารมณ์ปั่นป่วน เรารู้ คือ เราเห็นพายุ เรากำลังมองดูพายุที่อยู่ข้างใน ตรงอารมณ์ที่มันเกิดปั่นป่วนตรงนั้น มันเป็นในลักษณะที่ว่าเราปรุงไปแล้วหรือเปล่า หรือว่ามันเกิดขึ้นตามสภาวะปกติธรรมชาติของมัน
ตอบ : มันปรุงไปแล้ว ถ้าไม่ปรุงมันไม่เกิด เพียงแต่ว่ามันปรุงยังไม่พอ รสยังไม่ได้ที่ ถ้ารสได้ที่เมื่อไหร่จะมันส์กว่านี้เยอะ
จึงได้บอกว่าการปฏิบัติของเราคือการฝึกสติ เมื่อสติมันทรงตัว มันรู้เท่าทัน เห็นต้นเหตุของมัน มันก็จะไม่ปรุงอีก เรียกง่าย ๆ ว่ามันรู้จักเข็ด ถ้าไม่รู้จักเข็ดก็ยังปรุงไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็อร่อยไปเรื่อย ๆ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 11:42
|