ถาม : จากที่ผมเล่ามาทำให้ผมมั่นใจว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่ยาก ทุกคนสามารถทำได้ถ้าตั้งใจจริง บวกกับก่อนหน้านี้เคยทำสมาธิแล้วได้ฌานสมาบัติ แต่ก็เสื่อมไป แต่ว่ารสชาติของฌานสมาบัติยังอยู่ในใจผมไม่หายไปไหนเลย ปัจจุบันก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจ เพื่อจะทรงฌานสมาบัติเพื่อความสุขของผม
แต่ทว่าตัวผมอายุยังแค่ ๒๐ ก็ยังอยากดูหนัง อยากมีแฟน เล่นเกม เหมือนปุถุชนปกติ แล้วเวลาผมเล่นเกม ผมก็เอาความรู้ทางพระพุทธศาสนามาปรับใช้ในการเล่นเกม เช่น เวลาเล่นเกมผมก็เอาสติ สมาธิ ปัญญา ควบคุมให้จิตผมโฟกัสกับการเล่นเกมและเอาตัวปัญญา หาวิธีที่จะชนะคู่ต่อสู้ เลยอยากถามหลวงพ่อครับว่า การที่ผมเอากำลัง สติ สมาธิ ปัญญา และความรู้ของพระศาสนามาพลิกแพลงใช้ในชีวิตประจำวันอย่างเช่นเล่นเกมตามที่กล่าวมา เป็นลักษณะฌานใช้งาน หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : กำลังจะหานรกใส่ตัว..! เอาของราคาประมาณไม่ได้มาใช้แค่สลึงเดียว แถมยังคิดว่าตัวเองใช้ได้ไม่มีที่สิ้นสุดอีกด้วย
สติ สมาธิ ปัญญา ท่านให้ใช้ไปในกายของตน รู้เห็นตามสภาพความเป็นจริง แล้วก็ลด ละ เลิก ในการยึดเกาะร่างกายนี้ เมื่อเลิกยึดเกาะร่างกายนี้ ก็ไม่ยึดเกาะร่างกายคนอื่น เมื่อไม่ยึดเกาะกระทั่งร่างกายของตนเองและร่างกายของคนอื่น ก็ไม่เกาะยึดในโลกนี้ด้วย แหม...แล้วก็บอกมาอย่างดีเลยว่าเป็นสังขารุเปกขาญาณแล้ว...!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 08-01-2017 เมื่อ 21:07
|