๗๗. น้ำมันชาตรี
สำรวมจิตลงเป็นหนึ่ง ระลึกถึงพ่อแม่ ครูอาจารย์ องค์บุรพมหากษัตริย์ ตลอดถึงผู้มีพระคุณทั้งหมด ขยับเปลี่ยนจาก
ท่าเทพพนม เป็น
ท่าถวายบังคม ต่อด้วย
พรหมสี่หน้า ย่างสามขุม คุมเชิงครู ดูดัสกร ฟ้อนลองเชิง ฯลฯ...
“
ดีมาก...” คำชมสั้น ๆ จากครู (
ครูเขตร์ ศรียาภัย) ทำเอาศิษย์หน้าใหม่ปลาบปลื้มเป็นที่ยิ่ง “
อุตส่าห์ฝึกหัดเอาไว้เถอะ ต่อไปจะได้ถ่ายทอดแก่ลูกหลานไว้ไม่ให้สูญหาย สมัยนี้ท่ามวยอย่าง ทุ่มทับ จับหัก เหินเตะ ไม่มีใครเขารู้จักกันแล้ว...” “
ครูเองก็เสียดายวิชา “ปลุกน้ำมันชาตรี” ทำเท่าไรก็ไม่ขึ้น ถ้าทำขึ้นละไอ้หนูเอ๋ย...เก่งเท่าเก่ง ใหญ่เท่าใหญ่ เรียงหน้าเข้ามาเถอะ...” นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ยินคำว่า “
น้ำมันชาตรี” ตามวิชาตั้งธาตุ ปลุกธาตุของ
พาหุยุทธ (มวยไทย)
“หลวงพ่อ” วัดท่าซุง เล่าว่า “
ในชีวิตฉันเห็นคนปลุกน้ำมันชาตรีขึ้นเพียง ๒ รายเท่านั้น หนึ่งคือหลวงพ่อปาน สองคืออาจารย์โภคา ต้องปลุกขึ้นถึง ๗ วาระ จึงนับว่าใช้ได้ ฉันเองก็ทำไม่ได้ พระท่านว่ายังไม่ถึงเวลา”
“
ชาตรีนี่เหนือกว่าคงกระพัน คงกระพันถูกตีถูกฟันหนัก ๆ ถึงไม่เข้าก็เจ็บ แต่ชาตรีนี่โดนเท่าไรมันไม่รู้สึกเจ็บ โบราณเรียกว่า “ลูกเบา” คือ ถูกอะไรรู้สึกว่าเบาไปหมด ฉันเห็นกับตาครั้งหนึ่ง ตอนนั้นกำลังเดินตัดทุ่งจะไปเทศน์...” “
มันเกิดลมหมุนขึ้นมา เห็นคนตกจากยอดตาลลงมาพลั่กใหญ่ ไอ้เราคิดว่าถึงไม่ตายก็คางเหลือง วิ่งเข้าไปหมายจะช่วย มันลุกขึ้นปัดตูดหน้าตาเฉย มือยังถือกระบอกน้ำตาลอยู่เลย ปัดไปบ่นไป ไอ้ห่...หกไปซะหน่อยได้...”
“
ถามมันดูว่ามีอะไรดี มันบอกว่ามี “ลูกเบา” อีกรายคือเจ้าอั๋น มันจะขึ้นชกมวย เจ้านี่เวลาชกมวยใช้ชื่อว่า “นิตย์” คู่ชกมันเก่งมาก กลัวสู้ไม่ได้เลยมาหาฉัน ฉันขโมยน้ำมันชาตรีหลวงพ่อปานมาหน่อยหนึ่ง ก็ไม่หน่อยล่ะ เกือบครึ่งขวดยานัดถุ์...” “
ความจริงไม่ได้ขโมยหรอกนะ ท่านใช้ฉันเฝ้ากุฏิ ฉันเลยคิดค่าเฝ้าซะ เอาแตะหัวเจิมให้เจ้าอั๋นมันนิดหนึ่ง มันก็ขึ้นไปชก ชนะน็อกเขาลงมา ถามมันว่าตอนที่เขาชกมันรู้สึกอย่างไร มันบอกว่า เหมือนเขาชกเบา ๆ โดนเท่าไรก็ไม่รู้สึกเจ็บ...”
อานุภาพอีกอย่างของน้ำมันชาตรีคือ อธิษฐานกินเพื่อรักษาโรคได้ทุกชนิด น้ำมันหลวงปู่ปานที่ทุกคนเรียกว่า “
น้ำมันสังฆโรค” ก็คือน้ำมันชาตรีนั่นเอง หลวงพ่อไปพบเหลือก้นขวดอยู่ที่กุฏิหลวงปู่ปาน ไม่มีใครเขารู้จัก เลยเอามาเติมแบ่งให้ใช้รักษาโรคกัน โดยไม่ได้บอกว่าเป็นน้ำมันชาตรี เล่นเอาอาตมากอดขวดโง่อยู่ตั้งนาน...!
ก่อนเข้าพรรษาปี ๒๕๓๔ “หลวงพ่อ” บอกว่า “
พระท่านอนุญาตให้ทำน้ำมันชาตรีได้แล้ว ท่านจะช่วยให้ปลุกครั้งเดียวใช้ได้เลย ไม่ต้องทำถึง ๗ วาระ...” ว่าแล้วหลวงพ่อก็สั่งน้ำมันงาจากโรงงาน รวดเดียว ๓๐๐ ปีบ...!
๒๖ กรกฎาคม ๒๕๓๔ วันอาสาฬหบูชา หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษกที่ศาลา ๒ ไร่ โดยมีมีดหมอและชานหมากมาเข้าปลุกเสกด้วย หลังพิธีหลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า... “
สมเด็จองค์ปฐมเสด็จมาเป็นประธานเอง พระพุทธเจ้า พระอรหันต์มากันแน่นขนัด กระทั่งสมเด็จองค์ปฐมตรัสเรียกท้าวสหัมบดีพรหมเข้ามาสั่งการ ขนาดท้าวสหัมบดีพรหมยังต้องกราบขอทางแทบแย่ กว่าจะหลีกเข้าได้...”
“
ในชีวิตหลวงพ่อปาน ท่านทำน้ำมันชาตรีแค่ ๒ วาระ ส่วนฉันเองก็คงได้ทำครั้งนี้ครั้งเดียว แต่ไม่เป็นไรนะ... น้ำมันชาตรีนี่เอาไปเติมเท่าไร อานุภาพก็ยังเหมือนเดิม ถ้าเราเติมไว้เรื่อย มันก็ไม่หมดใช่ไหม...? เวลาเติมให้เอาน้ำมันชาตรีเททับน้ำมันงานะ อย่าเอาน้ำมันงาเททับน้ำมันชาตรี ถ้าทำแบบนั้นจะไม่มีผล...” ญาติโยมที่ได้น้ำมันชาตรีไป ต่างก็ปลาบปลื้มใจเป็นที่ยิ่ง นำไปใช้ได้ผลเป็นที่อัศจรรย์ บางคนรถชนกันยับเยินไปทั้งคัน ตำรวจถามว่าศพอยู่ไหน...? เขาตอบว่า “
ศพอยู่ไหน ผมก็ไม่รู้...? แต่รถคันนี้ผมขับมาเองครับ...!”
อาตมาเห็นอานุภาพน้ำมันชาตรีถนัด ตอนไปดู
ดวงแข (ดวงแข คชภูมิ) หัดยิงปืน พ่อของดวงแขเพิ่งตาย ในครอบครัวก็เป็นผู้หญิงเกือบหมด คนเขาเลยไม่ให้ความเกรงใจ จ้องจะรังแกกันท่าเดียว ล่าสุดเพิ่งจี้เอารถเครื่องใหม่เอี่ยมไป ๑ คัน...! ด้วยความเจ็บใจที่ถูกจี้รถไป ดวงแขเลยหัดเล่นของหนัก เอาปืนมาหัดซ้อมยิงกัน บังเอิญปืนก็มาก คนก็มาก เลยเกิดเหตุสยองขวัญขึ้น ขณะที่ดวงแขกำลังฝึกบรรจุกระสุนของซีแซด ขนาด ๙ ม.ม. อยู่
จุ๊บ (เบญจพร วิบูลย์พันธุ์) ก็หยิบเอา
สมิธ ขนาด ๑๑ ม.ม. ไปลูบ ๆ คลำ ๆ...
เสียง
เกียง (มาลินี ตีรเลิศพานิช) บอกว่า “
เซฟไว้แล้ว ลองเหนี่ยวไกดูซิ...” จุ๊บซึ่งไม่ประสีประสากับปืนก็เหนี่ยวไก “
เปรี้ยง...!” เสียงดังสนั่นปานฟ้าผ่า จุ๊บตกใจช็อกตาค้าง...! มือยังกำปืนที่ง้างนกร่าน่าหวาดเสียว เพื่อนต้องแย่งมาลดนกก่อน “
กระสุนไปทางไหน...?” อาตมาถามหาวิถีกระสุน ถ้าไปโดนบ้านใกล้เรือนเคียงบาดเจ็บล้มตาย มีหวังคุกแน่ ๆ “
อยู่นี่...” แม่ของดวงแขหยิบหัวกระสุนที่แตกเปลือกแบนแต๊ดแต๋มาชูให้ดู “
มาถูกฉันที่ชายโครงนี่...!” ทุกคนพรวดเข้าไปดูด้วยความตกใจ แม่ของดวงแขเปิดเสื้อให้ดู เห็นมีรอยผื่นแดง ๆ นิดเดียว “
รู้สึกเหมือนตัวแมงมันบินมาชนอย่างนั้นแหละ...” กระสุนฟูลเมตัลแจ๊กเก็ต แรงปะทะ ๔๕๐ ฟุตปอนด์ นักมวยเฮฟวี่เวทยังตีลังกาสามทอด กลายเป็นตัวแมลงบินมาชน...! อะไรมันจะ “ลูกเบา” ได้ขนาดนั้น...?
ถ้าใครไม่รู้อานุภาพของกระสุนบวกพีขนาด ๑๑ มม. คงจะไม่กระไรนัก แต่อาตมาซาบซึ้งเป็นที่สุด ใครโดนเข้าเต็มภิกขาขนาดนั้น ต่อโลงได้เลยทุกราย ความเร็วต้น ๑,๐๕๐ ฟุต/วินาที จากลำกล้อง ๕ นิ้ว
ไม้กระดานขนาดนิ้วครึ่งยังทะลุกลมดิกเป็นสว่านไชเลย อย่าว่าแต่เนื้อคน...!
“
ก็ไม่เห็นมีอะไร นอกจากกินน้ำมันชาตรีวันละช้อนทุกวัน...” แม่ของดวงแขเฉลยให้ทราบ เท่านั้นเองข่าวคราวของน้ำมันชาตรี ที่เหนือกว่ามหาอุตม์และคงกระพัน ก็ระบือลือลั่นจนกลบอานุภาพทางรักษาโรคซะสนิทเลย...!
๓ ตุลาคม ๒๕๓๕
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ