พระอาจารย์กล่าวกับโยมที่เอาชามาถวายว่า "จำไว้...ปกติอาตมาเป็นคนไม่ฉันชา ที่ฉันเพราะมี ถ้าไม่มีก็ไม่ได้เดือดร้อน แต่สำหรับบางท่านติด พอไม่มีชาแล้วอยู่ไม่ได้ อาตมาไปงานบางที ๓-๔ วันติดกันฉันแต่ชา พอกลับวัดมาก็ฉันน้ำร้อนเปล่า ๆ ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
เรื่องของชา หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยเล่าให้ฟังว่า สมัยที่ท่านยังเป็นนักเทศน์อยู่ ถ้าไม่ได้ฉันชาก็รู้สึกว่าเทศน์ไม่ลื่น ถ้าไปบางวัดเขาก็ไม่ได้เตรียมไว้ให้ ท้ายสุดท่านก็เลยพกชาไปเอง มีอยู่วันหนึ่งท่านกำลังเดินข้ามทุ่งอยู่ มือหนึ่งก็หิ้วกาน้ำชา รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ก็มาคิดว่า "เราบวชมาเพราะต้องการจะละกิเลส แล้วกาน้ำชานี่คืออะไรกัน ?" ว่าแล้วก็โยนโครมเข้าพุ่มไม้...เลิกฉันตั้งแต่บัดนั้นเลย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2016 เมื่อ 19:56
|