ถาม : ผมมาขอขมาด้วยกาย วาจา ใจ ที่ไม่สมกับเป็นนักปฏิบัติวัดท่าขนุน ?
ตอบ : เดี๋ยวก็ได้ขออีกเยอะ ไม่ต้องห่วง ตอนนี้เอาเป็นว่าจบแค่นี้ก่อน
เขาเรียกว่าของขึ้นง่าย ในเมื่อของขึ้นง่าย ใครแหย่ไม่ได้ ก็กลายเป็นว่าคนฉลาดกว่าก็แหย่เราเล่นเป็นของสนุก
ถาม : ผมพยายามจะลดโทสะลง แต่กลายเป็นมากขึ้น ?
ตอบ : เลยกลายเป็นเก็บกด แล้วไประเบิดทีหลัง
ถาม : ผมต้องภาวนาให้มากขึ้น หรือทำอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ภาวนาแล้วแผ่เมตตา พิจารณาให้เท่าทันว่า สิ่งที่เขาทำสมควรแก่การโกรธหรือไม่ ? เราจะโกรธเขาหรือไม่โกรธเขา เขาตายไหม ? เราจะโกรธเขาหรือไม่โกรธเขา เราตายไหม ? ถ้าเราตายตอนเราโกรธเราจะไปไหน ? สมควรที่จะโกรธอย่างนั้นอีกไหม ? คิดให้เป็นแล้วเราจะทิ้งไปได้เยอะเลย
ขอขมาถูกแล้ว ไม่สมควรแก่การเป็นลูกศิษย์สถาบันวัดท่าขนุน สถาบันวัดท่าขนุนต้องฉลาดกว่านี้ เจ้าอาวาสท่านฉลาดจะตายไป..! ...(หัวเราะ)...
ถาม : เรื่องความผิดพลาดต่าง ๆ จะพิจารณาอย่างไร ?
ตอบ : ก็บทเรียนอย่างไรเล่า ถึงเวลาผิดเป็นบทเรียน ต่อไปเราก็จะผิดน้อยลง รู้ว่าไอ้ที่ผิดไปแล้วเราจะผิดอีกไม่ได้
ถาม : แต่ในระหว่างบทเรียน เราต้องจำตลอดชีวิตใช่ไหมครับ ?
ตอบ : จะได้รู้ว่าต่อไปอย่าได้โง่อย่างนั้นอีก
ถาม : ที่เขาแหย่มาผม บางทีผมรู้ว่าเป็นกรรมเก่าของเรา แต่ผมก็รับเข้ามา ทำใจอย่างไรให้ทุกข์น้อยที่สุดครับ ?
ตอบ : ก็แค่ไม่รับ ถ้าไปรับทุกข์มาก็ช่วยไม่ได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-10-2016 เมื่อ 19:48
|