พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อเช้าพูดถึงหน้าร้อนแล้วคนไปเดินห้างมาก แล้วก็เดินกันเป็นวัน ในส่วนที่กล่าวถึงก็คือ เดินห้างได้เป็นวัน แล้วก็อ้างว่าไม่มีเวลาให้ลูก น่าตายไหม ? เลี้ยงหมาเลี้ยงแมวยังดูแลให้ดีได้ เลี้ยงลูกกลับดูแลให้ดีไม่ได้
สาเหตุที่บ่นอย่างนี้เพราะว่าหมาที่วัดคลอดลูกมา ๑๑ ตัว กินนมจนแม่หมาเหลือแต่ซี่โครง เอาอะไรไปให้แม่หมาก็กินทั้งนั้น แล้วก็ยังหิวอยู่ สรุปว่ายังไม่เห็นแม่หมาคาบลูกไปทิ้งถังขยะแล้วบอกว่า “แม่จำเป็น” เลยสักตัวหนึ่ง เชื่อเถอะ...เดี๋ยวกลับไปก็แทบไม่เหลือ
นโยบายที่วัดก็คือ เลี้ยงลูกหมาให้สวยเข้าไว้ เดี๋ยวก็มีคนช่วยเอาไปเลี้ยงเอง พระก็แกล้งทำเป็นหวง ๆ ไว้หน่อย พอพระอาจารย์ไม่อยู่วัดลูกหมาก็หายหมด ทุกวันนี้เฉพาะค่าหมอค่ายาหมาเดือนหนึ่งเป็นหมื่น ไม่ค่อยจะพอด้วย
อาตมากำลังวางแผนทำหมันแมวของแม่ชี เพราะว่าแมวจะเป็น ๑๐๐ ตัวอยู่แล้ว ที่น่าเบื่อที่สุดก็คือชอบมาฉี่ในหอฉัน ให้แม่ชีเขาจัดการทำกรงใหญ่ใส่รวมกันเอาไว้ ไม่รู้ว่าแหกกรงออกมาได้อย่างไร ? คาดว่าตาข่ายต้องใหญ่ หัวแมวจึงลอดได้ สัตว์นี่แปลกมาก ถ้าหัวไปได้ ตัวก็จะไปได้ ก็คือตาข่ายเราเห็นว่าเป็นสี่เหลี่ยม ๆ ไม่น่าออกได้ เขาก็ตะแคงซ้ายตะแคงขวาเอาหัวออกได้ พอหัวออกได้แล้วตัวจะตามมาได้สบายเลย ยิ่งงูนี่ยิ่งใช่เลย ถ้าหัวงูออกได้ตัวไปได้แน่นอน
ระยะนี้งูไม่ได้อยู่เย็นเป็นสุขเลย เพราะอากาศร้อน กลางคืนก็เลยเพ่นพ่านไปหมด ที่น่าหวาดเสียวคืองูกะปะ เพราะว่างูกะปะเวลากัดแล้วกว่าจะตายก็ทรมานกันนาน โดนงูจงอางหรืองูเห่ากัดเสียยังดีกว่า แล้วเจ้ากะปะตัวนี้ก็จะหาที่เหมาะ ๆ ไปนอนแต่ละที่ครึ่งวันค่อนวัน ไปดูกี่ทีก็อยู่ตรงนั้นแหละ พออากาศเริ่มร้อนแล้วถึงย้ายที่"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-05-2016 เมื่อ 15:32
|