ถาม : จิตนี้จริง ๆ มีแค่ดวงเดียว มีเกิดดับ ๆ ตามอารมณ์ แล้วกายละเอียดเป็นอย่างเดียวกับจิตไหมครับ ?
ตอบ : ก็คือจิตนั่นเอง เราต้องการเห็นเป็นดวงก็เป็นดวง ต้องการเห็นเป็นกายก็เป็นกาย ก็คือผู้รู้ที่อยู่ข้างใน แล้วผู้รู้ตัวนี้มีสภาพอย่างไร ? มีสภาพตามกำลังใจของเราตอนนั้น ถ้ากำลังใจต่ำก็มีสภาพเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน แล้วแต่ระดับของใจ ถ้าสภาพจิตดีก็เป็นเทวดา เป็นพรหม
ถาม : แล้วจริง ๆ อทิสมานกายสามารถแยกเป็นหลาย ๆ กายได้ ?
ตอบ : เป็นจิตเดียว แต่สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้ จึงสามารถแยกเป็นร้อยเป็นพันพร้อม ๆ กันได้ แต่ไม่ว่าปลายจะแยกออกไปเท่าไร ต้นสายก็มีหนึ่งเดียว
ถาม : แล้วใช้ประโยชน์อย่างไรครับ ?
ตอบ : ก็ถ้าขี้เกียจขึ้นมาก็แยกใจทำงานหลาย ๆ พร้อมกันได้ ถ้าขยันขึ้นมาก็ค่อย ๆ ทำทีละอย่างไป
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-04-2016 เมื่อ 15:48
|