หยาดฝนใคร่ครวญอีกเหมือนกันว่า ควรอธิบายเพิ่มเติมแค่ไหนกัน เกรงว่าจะกระทำสิ่งที่ไม่ควร แต่ได้พิจารณาแล้วว่า พระอาจารย์เคยบอกว่า "มีวิชาอะไรให้หมด" เมื่อท่านไม่ได้หวงวิชาแล้ว จึงไม่คิดหวงแทนท่าน ไม่คิดจะเก็บไว้แค่ในหมู่คนที่ใกล้ชิดพระอาจารย์
เพียงแต่ท่านใดนำวิชาไปศึกษา ขอให้เคารพพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ให้มาก อย่าไปทำไม่ดี เจตนาที่นำมาเผยแพร่เพื่อให้ท่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และรักษาวิชาความรู้ไว้
สำหรับหยาดฝน เคล็ดลับสำคัญสำหรับยันต์ทำน้ำมนต์นั้นคือ
"ไปบูชาเอา" หากบูชาไม่ทัน ก็ไปรอประมูลเอา
"สมาธิเต็มอัตรา" คือ สำหรับคนจับภาพพระ ควรเห็นสว่างสดใสเป็นแก้วประกายพรึกเท่าที่สุดที่จะทำได้
(สว่างให้ตาบอดไปเลย)
เริ่มจับภาพพระตั้งแต่จรดจุดแรกของยันต์ จนกว่าจะจรดจุดสุดท้าย
คนไม่จับภาพพระ คงต้องรบกวนไปถามพระอาจารย์เอง หยาดฝนขาดประสบการณ์ตรงนี้ค่ะ
ลำดับการชักยันต์
ก่อนอื่นให้ลากเส้นยันต์ ทั้งตารางและวงกลม ตรงวงกลมใช้เหรียญก็ได้ เพื่อความสะดวก หรือจะใช้วงเวียนก็ตามถนัด
ถ้าให้ง่ายก็ลากสี่เหลี่ยมข้างนอกก่อน แล้วค่อยแบ่งช่อง ใส่วงกลม แล้วลากเส้นทแยงมุม
การลากเส้นตาราง พระอาจารย์เคยบอกว่า
"จะลากอย่างไรก็ได้" แต่พระอาจารย์ท่านมักลากจากมุมซ้ายก่อน พอครบสี่เหลี่ยม..เส้นสุดท้ายเราก็ลากขึ้นพอดี เส้นทแยงมุมก็ลากลงก่อน ค่อยลากขึ้น
ขณะลากต้องภาวนาไปเรื่อย ๆ ไม่ใช่รอบเดียวจบ ภาวนาซ้ำและไม่ขาดจนกว่าจะลากเสร็จ
ลำดับการลงอักขระ เป็นดังนี้ เริ่มที่
อุณาโลม ว่า
"อุณาโลมา ปะนะชายะเต นะมะพะทะ" (ถ้าเวลาเหลือก็เพิ่มไปอย่างที่เคยกล่าวไว้ใน "ยันต์ชนะ" เกี่ยวกับยอด ๓, ๕, ๗ หรือ ๙)
อักขระทั้งหมดคือ
"นะ โม พุท ธา ยะ" และซ้ำอีกหนึ่งรอบ
ที่กล่าวว่า
"อักขระตัวอื่นก็ว่าเหมือนกัน" ก็คือเปลี่ยน "นะ" เป็นตัวอักขระถัดไป
"นะ" กาโร โหติ สัมภะโว จงมาเกิดเป็น "นะ" นะมะพะทะ
"โม" กาโร โหติ สัมภะโว จงมาเกิดเป็น "โม" นะมะพะทะ
ไปเรื่อย ๆ จนจบ
สำหรับอักขระนั้น คาถากับการเขียนนั้นควรจบพร้อมกัน
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ได้มาคือ สำหรับหยาดฝนเป็นยันต์ปราบความสงสัย (ในพระรัตนตรัย) เพราะว่าตอนสอน พระอาจารย์เล่าว่า การเขียนยันต์เขาห้ามให้อักขระทับเส้นยันต์ ไม่อย่างนั้นเขาว่า
"ใช้ไม่ได้" แต่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านต้องการกำจัดความสงสัย
จึงเขียนทับไปเลย จะได้ไม่ต้องสงสัยกัน (ความหมายก็คือ "ใช้ได้")
จึงมาตรงกับที่ตำราพระบูรพาจารย์บันทึกไว้ว่า
"จะมีผลเฉพาะผู้ที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยเท่านั้น"
อีกเรื่องที่พระอาจารย์พูดไว้ตอนสอนคือ
ให้ชักยันต์ด้วยใจ ไว้ในตัวเรา กำหนดให้ใสเป็นแก้วสว่าง แล้วอาราธนา หมั่นทำทุกวัน การชักก็ใช้บทที่อธิบายไว้ตามตำราบูรพาจารย์ ตรงที่บอกว่า
"ใช้ใจกำหนดลากเส้นและลงอักขระ..." จนถึง
"อิทธิฤทธิ พุทธะนิมิตตัง..."
สารภาพตามตรงว่าตรงนี้หยาดฝนก็ลืมบ้างเหมือนกัน ใครทำได้ก็ขอโมทนาค่ะ