"อยากจะบอกว่านักปฏิบัติจริง ๆ เขาไม่ค่อยนอนกันหรอก เอาเวลาไว้ปฏิบัติมากกว่า กลัวว่ากำลังจะไม่พอสู้กิเลส กลัวว่ากิเลสตีกลับขึ้นมาจะสร้างความเดือดร้อนให้แก่พวกเรา แต่พวกเราส่วนใหญ่แล้วต้องบอกว่ายังไม่เข็ด ทั้ง ๆ ที่โดนแล้วโดนอีกจนนับครั้งไม่ถ้วน ถึงเวลากิเลสมีกำลังมากกว่าแล้วตีพวกเราหงายท้อง จิตตก สมาธิตก กรรมฐานแตก เจ๊งไป ๒-๓ อาทิตย์บ้าง เดือนหนึ่งสองเดือนบ้าง แต่ไม่เคยเข็ด ถ้าเข็ดจะรู้จักใช้ปัญญาพิจารณาว่าคราวที่แล้วเราพลาดเพราะอะไร แล้วจะได้ระมัดระวังไม่ให้พลาดอีก
ไม่ใช่แต่โยมหรอก อาตมาเองกว่าจะเข็ดก็โดนมาปีแล้วปีเล่า คราวนี้วันนั้นเบื่อเต็มทีแล้ว ทำไมเจ๊งอยู่เรื่อย ? ก็เลยตั้งหน้าตั้งตาดูว่าพลาดตรงไหน พอเห็นจุดผิดพลาดแล้วก็แก้ไข กำหนดการภาวนาให้ต่อเนื่องไว้ พอกิเลสแทรกเข้ามาไม่ได้ กำลังใจของเราก็ไม่ตก
พอปฏิบัติไป ๆ เราต้องเน้นเข้าหาอารมณ์ของพระโสดาบัน ถ้าท่านทั้งหลายสามารถเกาะติดจริง ๆ ถึงตอนนั้นกำลังใจจะไม่ตก ตกแต่สมาธิ ถ้าสมมติว่าเราพลาด สมาธิตก แต่กำลังใจมั่นคงเหมือนเดิม เหมือนกับเราหล่น แต่คราวนี้สิ่งมารองรับอยู่ แล้วเราก็สามารถตะเกียกตะกายกลับขึ้นไปง่าย สมัยก่อนหล่นแล้วไม่มีอะไรรองรับ ตูมเดียวถึงก้นเหวเลย กว่าจะกลับขึ้นไปก็ยากมาก"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-02-2016 เมื่อ 16:26
|