ดูแบบคำตอบเดียว
  #108  
เก่า 21-11-2015, 15:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,720
ได้ให้อนุโมทนา: 152,086
ได้รับอนุโมทนา 4,418,916 ครั้ง ใน 34,310 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : อย่างที่คนที่สมัยนี้จำเนื้อหาในพระไตรปิฎก แต่ยังทำไม่ได้ ?
ตอบ : ตำราเหมือนแผนที่ ถ้าเราถือแผนที่เอาไว้โดยไม่ยอมปล่อยไปไหนเลย ก็ไม่สามารถที่จะก้าวไปถึงจุดหมายปลายทางได้ เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่าเหมือนต้นเสาข้างหลัง บอกว่าจะไปเชียงใหม่ ถ้าเรายืนกอดต้นเสาอยู่ ก็ไม่สามารถที่จะไปเชียงใหม่ได้ ดังนั้น..ศึกษาให้รู้พอเป็นแนวทาง แล้วเริ่มลงมือปฏิบัติก็คือ เริ่มเดินทางเลย ถึงจะเกิดประโยชน์

การศึกษาในเรื่องของตำราต่าง ๆ ปัจจุบันนี้ที่เห็น ก็คือ ยึดติดว่าเราศึกษามามาก รู้มากกว่า แล้วยกเอาวาทะไปข่มคนอื่น หรือไม่ก็งัดข้อกันโดยที่ตนเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนยกมานั้นใช่หรือเปล่า คำว่าใช่หรือเปล่าคือใช่ของตัวเอง เพราะของพระพุทธเจ้าท่านใช่แน่ ๆ อยู่แล้ว แต่ว่าคุณยกมาสามารถใช้ได้เต็มที่หรือเปล่า ? เหมือนนักวิทยาศาสตร์เขาบอกว่า ปัจจุบันนี้เราใช้สมองไม่ถึง ๓๐ เปอร์เซ็นต์ อีก ๗๐ เปอร์เซ็นต์เรายังเข้าไม่ถึง แต่ของพระพุทธเจ้าท่านเกิน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ไปนานแล้ว แล้วเราเองก็เอา ๓๐ เปอร์เซ็นต์ของตัวเองว่าเราศึกษาจบแล้ว รู้เหมือนพระพุทธเจ้าแล้ว เอาไปนั่งเถียงกับคนอื่น ก็ตายสถานเดียว ตายอย่างน่าทุเรศด้วย เพราะตายแล้วอาจจะลงข้างล่าง...!

เร่ง ๆ ทำไป ไม่ว่าคุณจะมาสายพระโพธิสัตว์ หรือสายสาวกภูมิก็ตาม ปฏิบัติไปแล้วเกิดผลดีต่อตัวเองทั้งสิ้น ถ้ามาสายพระโพธิสัตว์เร่งรัดปฏิบัติ หนทางที่เราจะไปเกิดต่อก็น้อยลง โอกาสที่จะเข้าถึงพระโพธิญาณก็มีมากขึ้น ถ้ามาสายสาวกภูมิ หนทางที่จะเวียนว่ายตายเกิดก็สั้นลง โอกาสที่จะล่วงพ้นทะเลทุกข์ก็มีมากขึ้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 21-11-2015 เมื่อ 18:40
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 136 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา