พระอาจารย์กล่าวว่า "ตอนนี้ที่วัดเขากลัวสังฆทานกัน เพราะเมื่อวันตักบาตรเทโวฯ รับไปหลาย ๑๐ คันรถ จนป่านนี้ยังจัดการไม่เสร็จเลย พ่อค้าแม่ค้าในตลาดกี่ราย ๆ ก็มาใส่บาตร ถามว่าตกลงวันนี้ปิดอำเภอเลยใช่ไหม ? เขาบอกว่าขายของพอแล้ว แสดงว่าคนเขาซื้อกันตั้งแต่วันก่อน หรือไม่ก็ซื้อกันช่วงเช้า ซื้อกันจนไม่มีของจะขายก็เลยปิดร้าน มาตักบาตรเทโวฯ กันเสียเลย
สมัยก่อนอยู่บ้านอนุสาวรีย์ฯ ยังว่าจะไปหักเปอร์เซ็นต์จากร้านท็อปส์ที่อยู่ข้าง ๆ โยมมากี่คน ๆ ก็เข้าร้านท็อปส์ซื้อของมาถวาย
มีหลายคนเขามีความเห็นว่าทำไมไม่ไปทำบุญกับวัดจน ๆ ? ทำไมไม่ไปทำบุญกับวัดไกล ๆ ที่เขาลำบาก ? แม้แต่พระด้วยกันบางทีก็โทรมาโวยวาย ว่าทำไมเขาไปแต่วัดท่าขนุนไกล ๆ วัดผมอยู่แค่ท่ามะกาทำไมเขาไม่เข้า ?
อยากจะถามเขากลับเหมือนกันว่า คุณได้พิจารณาตัวเองหรือเปล่า ว่าทำอย่างไรคนเข้าถึงไม่เข้าวัดของคุณ ? ส่วนใหญ่ศรัทธาของคนเกิดยาก แต่ถ้าเกิดแล้วนี่คลอนแคลนยาก การปลูกต้นศรัทธานี้ต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ต้องทำให้เขาเห็นชัด ๆ ว่าเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง
ระยะหลังเวลาสอนพระนิสิต อาตมาจะเตือนพวกท่านอยู่เสมอ ให้สังเกตดูว่า ตอนที่คุณบวชเข้ามาตั้งใจทำอะไร ? ตั้งใจสละออก ตั้งใจทำเพื่อพระศาสนา ปัจจุบันนี้คุณกำลังทำเพื่อความสุขของตัวเองหรือเปล่า ? จะต้องสร้างกุฏิติดแอร์ดี ๆ สำหรับตัวเอง จะต้องซื้อรถดี ๆ สำหรับตัวเองหรือเปล่า ? ถ้ามีโยมเขาทำถวายก็รับไว้เถอะ แต่ถ้าทำเพื่อตัวเองให้เปลี่ยนความคิดเสีย มีคนเขาบอกว่า ถ้าทำเพื่อตัวเองจะอยู่ได้แค่สิ้นลม แต่ถ้าทำเพื่อสังคมจะอยู่ไปชั่วกาลนาน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-11-2015 เมื่อ 18:39
|