ถาม : หลวงพ่อคะ ช่วงนี้หนูจะมีอารมณ์อย่างหนึ่ง ก็คือ มองเข้าไปในจิตตัวเอง มันเห็นเป็นอารมณ์ว่าง ไปลงตรงนี้ตลอด และหนูก็พอใจที่จะจับอารมณ์ตรงนี้ด้วยค่ะ หนูก็ไม่รู้ว่าจะทำต่อไปอย่างนี้ดีหรือเปล่า
ตอบ : พอเราไปถึงตรงนั้นแล้วให้ตั้งใจว่า เราตายเมื่อไหร่เราจะไปนิพพาน บวกไปอีกนิด เพราะในส่วนสมาธิไม่ว่าจะอยู่ระดับไหนก็ตามมันจะมีกำลังแค่ไม่เกินพรหม
ถาม : อารมณ์ว่างในจิตของหนู มันเป็นการดูจิต หรือมันเป็นความว่างกันแน่
ตอบ : มันเป็นสมาธิ แต่ขณะเดียวกันมันก็มีปัญญาในสมาธิ ในเมื่อมันมีปัญญาสมาธิ มันก็ย่อมมีความรู้รอบของมันอยู่แต่เพียงว่ามันจำกัด
ถาม : ปกติหนูก็ทำในส่วนที่เป็นธาตุ ๔ ตลอด แต่ทีนี้เราก็ต้องย้ำธาตุ ๔ ของเราไปด้วยตลอดใช่ไหมคะ
ตอบ : อย่าลืมปิดท้ายด้วยเพชรยอดมงกุฎ (ปิดท้ายด้วยอารมณ์นิพพาน)
ถาม : หลวงพ่อคะมันเป็นไปได้ไหมคะที่มันมีอารมณ์ตัด ตัดในที่นี้ก็คือการตัดสินใจของเราค่ะ ถ้าตัดแล้วก็พร้อมที่จะไปเลย หนูก็มาคิดมันเป็นไปได้หรือ เพราะหนูยังทำไม่ถึงตรงจุดนั้นเลย
ตอบ : มีจ้ะ
ถาม : แต่ว่านาน ๆ มาโผล่ทีนะคะ ถ้ามันมาแบบนี้อีกทำอย่างไรคะ
ตอบ : ก็ตัดใจไปเลย ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องอาลัยอาวรณ์
ถาม : หนูไม่อยากตายตอนนี้ค่ะ นี่ก็หลบพ่อแม่มา ตายตอนนี้เดี๋ยวเขาก็รู้ว่าหนูหลบมา
ตอบ : ทำไมต้องไปกลัวเขารู้ด้วย แน่จริงก็ให้เขาตามไปว่าสิ
ถาม : ตรงนี้มันเป็นอะไร อารมณ์มันตรงร่องหรือคะ
ตอบ : อะไรประมาณนั้น
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 17-08-2009 เมื่อ 11:33
|