ดูแบบคำตอบเดียว
  #90  
เก่า 17-06-2015, 12:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,753
ได้ให้อนุโมทนา: 152,182
ได้รับอนุโมทนา 4,420,511 ครั้ง ใน 34,343 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "ระยะนี้ต้องบอกว่าเห็นใจรัฐบาลมาก เพราะว่าความชำนาญของทหารไม่ได้อยู่ที่การปกครองบ้านเมือง ไม่ได้อยู่ที่การบริหารบ้านเมือง แต่อยู่ที่การปกป้องประเทศชาติ รัฐบาลทหารที่เข้ามา อันดับแรกเลย ก็คือ ยุติความขัดแย้งที่ตั้งใจให้เกิดขึ้น ฟังให้ดี ๆ นะ เขาตั้งใจให้เกิดขึ้น ให้รัฐบาลทหารออกมา ต้องบอกว่าอยู่ในลักษณะของการสมรู้ร่วมคิดกัน แต่พอทำแล้วไม่สามารถที่จะบริหารประเทศชาติให้ดีได้ เนื่องจากว่าทหารไม่ได้เรียนมาในลักษณะของการบริหารประเทศ แต่เรียนมาเพื่อป้องกันประเทศ เมื่อเป็นเช่นนั้นก็เลยเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า "เรือติดหล่ม" อย่างในปัจจุบันนี้

บอกว่ามาเพื่อสร้างความปรองดอง สร้างความสามัคคี ซึ่งความจริงการสร้างความปรองดอง สร้างความสามัคคี จะต้องใจกว้างพอ โดยเฉพาะต้องรู้จักให้อภัย ต้องรับฟังความเห็นต่างได้ แบบเดียวกับที่นักการเมืองมืออาชีพบอกว่า “เสียงข้างน้อยแม้แต่เสียงเดียว ก็มีคุณค่าควรแก่การรับฟัง” บอกว่าเข้ามาเพื่อกำจัดคอรัปชั่น เรื่องของการกำจัดคอรัปชั่นต้องบอกว่าเป็นเรื่องในฝัน การกำจัดคอรัปชั่นต้องวางพื้นฐานตั้งแต่เด็กทารกมาเลย ถ้าเราไม่สร้างจิตสำนึกให้แก่เด็กตั้งแต่อยู่ในบ้าน พูดง่าย ๆ คือตั้งแต่เกิดมา ไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาคอรัปชั่นได้

ญี่ปุ่นเขามีการสร้างจิตสำนึกให้แก่เด็กตั้งแต่เล็ก ๆ เลย เมื่อไม่นานนี้มีการเผยแผ่คลิปวีดีโอการทดสอบเด็ก ผู้ใหญ่ทำเป็นกระเป๋าสตางค์หล่น ปรากฏว่าเด็กทุกคนทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่เห็น ถ้าไม่เก็บคืนก็ดึงแขนผู้ใหญ่ให้รู้ว่ากระเป๋าตก บ้านเราถ้าไม่ทำอย่างนี้แก้ปัญหาคอรัปชั่นไม่ได้ เพราะว่าคนเราพอขึ้นไปสู่ระดับสูงแล้ว ถึงไม่คอรัปชั่นเขาก็เต็มอกเต็มใจเอาไปให้ เพื่อขอความสะดวกในการทำงานแบบนั้นแบบนี้ ซึ่งลักษณะนี้มีมาแต่โบร่ำโบราณแล้ว มาจากบรรดาคนจีน อารยธรรมจีนเจริญรุ่งเรืองมาเป็นพัน ๆ ปี อยู่คู่กับการติดสินบน ที่ต้องบอกว่าเป็นการหยอดน้ำมันเพื่อให้ระบบงานลื่นไหล

ดังนั้น..ต่อให้ท่านมาแบบบริสุทธิ์สะอาดขนาดไหนก็ตาม ท้ายที่สุดก็จะเสียผู้เสียคนไปเอง นักการเมืองที่อาตมาเห็นว่ามือสะอาดจริง ๆ ก็คือ พันเอกพระยาพหลพลพยุหเสนา ท่านเจ้าคุณพหลฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าจำไม่ผิด ๕ สมัยด้วยกัน ปรากฏว่าตายแล้วทางบ้านไม่มีเงินแม้แต่จะจัดงานศพให้สมเกียรติยศ จนกระทั่งรัฐบาลต้องออกเงินจัดงานให้ เป็นไปได้ไหม ? คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีมา ๕ สมัยไม่มีเงินจะจัดงานศพตัวเอง เพราะคนสมัยนั้นที่รับราชการ ซื่อตรงต่อแผ่นดินก็คือซื่อตรงจริง ๆ มีการถือน้ำพิพัฒน์สัตยา รู้จักละอายชั่วกลัวบาป เมื่อถึงเวลาเอ่ยคำสาบานไปแล้ว โดยเฉพาะต่อเบื้องพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็ยึดถือจนวันตาย

สมัยนี้อาตมาเห็นข้าราชการ โดยเฉพาะรัฐบาลต่าง ๆ ถึงเวลาก็ปฏิญาณตนต่อเบื้องพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตอนปฏิญาณก็ทำอย่างหนึ่ง พอถึงเวลาก็กลายเป็นอีกอย่างหนึ่ง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-06-2015 เมื่อ 13:55
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 190 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา