พระอาจารย์กล่าวว่า “ในเรื่องของการถามคำถาม สิ่งที่ตอบไปจะพอดีอยู่แล้ว ถ้าพยายามไปแสดงความโง่ด้วยการออกความเห็นเพิ่มเติม อาจจะเป็นการตีความผิดและอาจจะทำให้คนอื่นเสียประโยชน์ไปด้วย เพราะฉะนั้น..ถ้าทำหน้าที่ถามอย่าพยายามเพิ่มความเห็นของตัวเองเข้าไป
ส่วนปัญหาหลายปัญหา ไม่ใช่ปัญหาแต่พยายามจะถาม ต้องบอกว่าถามแบบคนที่ขาดปัญญามาก เรื่องของการปฏิบัติ วิธีที่ดีที่สุดคือลงมือทำไม่ใช่ถาม การถามมีแต่จะพาให้ฟุ้งซ่าน โดยเฉพาะกำลังใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน อย่างเช่นถามว่าใช้เวลานานเท่าไร ไม่มีใครตอบคุณได้หรอก
เพราะกำลังใจแต่ละคนไม่เท่ากัน เหมือนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า “ถ้าปฏิบัติแบบนี้อีก ๑๐ ปีถึงจะเห็นหน้าเห็นหลัง” แต่หลวงพ่อท่านใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือน เนื่องเพราะว่าการพยากรณ์เป็นไปตามกำลังใจปัจจุบัน
อาตมาเคยเปรียบเทียบว่า เหมือนกับเราขับรถด้วยความเร็ว ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นเวลา ๑ ชั่วโมงครึ่งจะถึงกาญจนบุรี แต่ถ้าเราลดความเร็วลงก็จะถึงช้ากว่านั้น ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้นก็จะถึงเร็วกว่านั้น เป็นต้น จึงเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราล้วน ๆ หลายต่อหลายท่านปฏิบัติดีอยู่ในช่วงหนึ่ง ได้รับคำพยากรณ์จากเทวดา จากพรหมหรือจากพระ ว่าจะเข้าถึงมรรคผลเมื่อนั้นเมื่อนี้ เกิดความดีใจขึ้นมา เสร็จแล้วก็เอ้อระเหยลอยชายไป มั่นใจว่าได้แน่ ตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้ ๒๐ กว่าปีผ่านไปยังไม่ได้อะไรเลย เพราะว่าไปทิ้งความเพียรในการปฏิบัติของตัวเอง ต้องบอกว่าไปลดความเร็วของรถที่ตัวเองขับ ทำให้ถึงช้ากว่าที่ท่านพยากรณ์เอาไว้”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-04-2015 เมื่อ 02:48
|