โธ่เอ๋ย.. ถ้าใช้ตาดูใช้อารมณ์ศรัทธาเฟื่องฟูเข้าไปจับสมัยโน้นใคร ๆ ก็ไม่เห็น ไม่หมายมั่นหลวงพี่นันต์ทั้งนั้นแหละ! สมัยปี ๒๕๑๘-๑๙ องค์ที่เด่นเจิดจ้าที่สุดนี่ดูดีหมดทุกด้าน รูปร่างหล่อเสียงดี เวลาหลวงพ่อนั่งที่ไหนจะเห็นองค์นี้นั่งสงบงามอยู่ในที่ใกล้เสมอ แต่แล้วก็เป็นดาวตก เฉไฉหายไปจากท้องฟ้าท่าซุงเสียเฉย ๆ เลย รุ่นต่อมาสักปี ๒๕๒๑-๒๒ องค์นี้เอ่ยชื่อได้ คือหลวงพี่อรัญ ..องค์นี้สนองงานพ่อเป็นที่วางใจได้ คุมหัวใจวงจรวัดคือศาลานวราชที่ต้อนรับผู้คนที่มาวัด และคุมบัญชีรายได้รายจ่าย บริหารดูแลฆราวาสภายในภายนอกได้ดีมาก แต่แล้วก็สึกออกไปดูแลโยมแม่ซึ่งไม่มีใครดูแลแล้ว ..หลวงพี่นันต์ก็ไม่เห็นเด่นชัด
ก่อนหลวงตาบวช (ก่อนปี ๒๕๒๕) ปีนั้นสักปี ๒๕๒๒ กระมัง วัดท่าซุงก็คักคักอบอุ่นขึ้นทันทีเมื่อ ๕ ทหารเสืออากาศมาบวชถวายชีวิตให้พระศาสนา เรียกตามชื่อติดปากกันสมัยนั้นว่า อาจินต์.. ไตรรงค์.. ทรงฤทธิ์.. ชโลทัย.. สมศักดิ์.. ที่ว่าคึกคัก ก็เพราะเป็นนายทหารจบจากโรงเรียนนายเรืออากาศกันทั้งหมด ทำงานกันดี ๆ อยู่ ก็พลันชักแถวตบเท้าเข้าบวช และที่สำคัญมากสำหรับหลวงตาก็คือ นายทหารนักบินทหารบกที่ชื่อ ชัยศรี องค์นี้แหละน่าจะเป็นมือขวาของพ่อ น่าจะใช่.. พนันกันเอาหัวเดิมพันก็ต้องเอากันล่ะ องค์นี้พอหลวงพี่อรัญสึก ก็ได้ทำหน้าที่แทนทันที
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 05-08-2009 เมื่อ 09:51
|