ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 26-03-2015, 15:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,713
ได้ให้อนุโมทนา: 152,065
ได้รับอนุโมทนา 4,418,818 ครั้ง ใน 34,303 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๘

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่ถนัดและสบายของตน ตั้งกายให้ตรง กำหนดความรู้ทั้งหมดไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ให้ความรู้สึกไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก..ให้ความรู้สึกทั้งหมดไหลตามลมหายใจออกมา ให้ใช้คำภาวนาที่เรามีความถนัดมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ เมื่อครู่ที่ได้กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่อึมครึม ดูท่าแล้วไม่ค่อยจะดี เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ถ้ากำลังใจของเราไม่ทรงตัว บางคนก็จะเครียด ห่วงกังวลทั้งตัวเอง ทั้งครอบครัว ทั้งหน้าที่การงานต่าง ๆ เพราะว่าในเมื่อสถานการณ์เอาแน่ไม่ได้ สิ่งต่าง ๆ ก็จะกำหนดให้เป็นไปได้ยาก

วิธีการที่เราจะไม่ไปใส่ใจ ก็คืออยู่กับการภาวนาของเรา ถ้าเราอยู่กับการภาวนา อยู่กับลมหายใจเข้าออก ก็คืออยู่กับปัจจุบัน ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ สภาพจิตไม่ส่งไปในอดีต ไม่ส่งไปในอนาคต เพราะว่าอดีตก็จะไปหวนหาอาลัยกับรัฐบาลเก่า ๆ ที่เราคิดว่าดีแล้ว ขณะเดียวกัน อนาคตก็ฟุ้งซ่านว่าจะมีรัฐบาลดี ๆ มาอีกเมื่อไร เป็นต้น

การหยุดใจไว้อยู่กับปัจจุบันจึงเป็นการสร้างสติที่ดีที่สุด ถ้าสติของเราทรงตัวมั่นคงแล้ว ไม่ว่าจะคิด จะพูด จะทำอะไรก็อยู่ในกรอบของเหตุผลและศีลธรรม ไม่ทำให้ตนเองและคนรอบข้างเดือดร้อน ไม่ไหลไปตามกระแสโลกที่เร่าร้อนขึ้นทุกขณะ ถ้าเราหนักแน่น เยือกเย็น และมั่นคงพอ ก็อาจจะเป็นที่พึ่งแก่คน จะหมู่มากหมู่น้อยก็แล้วแต่การสั่งสมคุณความดีมา

ดังนั้น..ในการสร้างสติที่ดีที่สุดก็คืออานาปานสติ คือลมหายใจเข้าออก เมื่อลมหายใจเข้าออกเริ่มทรงตัว จิตกับประสาทก็เริ่มแยกออกจากกัน เราอาจจะรู้สึกว่าลมหายใจเบาลง บางทีก็หายไป คำภาวนาบางทีก็หายไป ยกเว้นท่านที่มีความรู้สึกละเอียดแล้ว แม้ดูภายนอกเหมือนไม่มีลมหายใจ แต่ท่านก็จะรู้ได้ว่ามีลมหายใจละเอียดอยู่ ซึ่งลมละเอียดเหล่านี้ บางทีไม่สามารถตรวจวัดด้วยเครื่องมือแพทย์สมัยใหม่ได้

เมื่อจิตกับประสาทเริ่มแยกออกจากกัน สิ่งที่เราต้องทำ ก็คือ ถ้าจับภาพพระอยู่ก็ให้กำหนดเฉพาะภาพพระของเรา ถ้าไม่ได้จับภาพพระแต่จับอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก เมื่อลมหายใจหายไปก็ให้กำหนดสติรู้เท่าทันว่าตอนนี้ลมหายใจหายไป อย่าไปดิ้นรนอยากจะหายใจใหม่ และอย่าไปดิ้นรนอยากจะไม่หายใจ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปโดยธรรมดา โดยธรรมชาติ เรามีหน้าที่เอาสติเข้าไปกำหนดรู้ตามเท่านั้น

ถ้าใครสามารถทำดังนี้ได้ ความมั่นคงของสมาธิที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะทำให้สติทั้งว่องไว ทั้งแหลมคม สามารถที่จะคิด จะพูด จะทำอยู่แต่ในสิ่งที่ดี ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในเรื่องของทาน ของศีล ของภาวนาก็ตาม
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-03-2015 เมื่อ 16:26
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 51 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา