เพราะอะไรหรือ ?
ก็เพราะกระแสหลวงตาฟีเวอร์ ศรัทธาแน่นหนามากขึ้นก็เกิดมีบางคน และหลาย ๆ คนเริ่มฝันเห็น เริ่มเห็นในนิมิตกรรมฐานของตนว่า หลวงตาเป็นพระอรหันต์ เห็นเองไม่เห็นเฉย ๆ กลับเขียนจดหมายไปบอกพ่อ (หลวงพ่อฤๅษีฯ) ว่า...เมื่อคืนลูกเห็นหลวงพ่อไปหาลูกจูงมือพระไปด้วยองค์หนึ่ง หลวงพ่อผ่องใสเป็นทองคำอย่างไรอย่างนั้นเลย...แล้วหลวงพ่อก็บอกลูกว่า
"องค์นี้ได้อรหันต์แล้วนะลูก ถือเป็นที่พึ่งได้"
ลูกตื่นขึ้นมายังน้ำตาเปียกอยู่เลย ดีใจ !
หลวงตาของลูกเป็นพระอรหันต์แล้ว ดูหลวงพ่อภูมิใจหลวงตามากนะเจ้าคะ
ลูกหลานเอย...ต้องรีบบอกเสียก่อน กันคนอ่านฟุ้งซ่านเลอะเทอะ ตอนที่เขาเขียนจดหมาย เขามาเล่าให้ฟังหลายอย่างหลายหน แต่ละหนสรุปอันเดียวคือหลวงตา จบกิจแล้ว
แต่หลวงตารู้ตัวเองมาตลอดว่าไม่ใช่ ! อย่างอื่นอาจจะคิดเคลิ้มอาจจะติดใจใยดีมากมาย แต่เรื่องตัวเองเป็นพระอรหันต์นั้น...หลวงตาพูดได้เลยว่า "ไม่ใช่ !" เพราะอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่ทรงตัว มันมีทุกระดับความดีความเลว เราย่อมรู้ตัวเองว่าเรายังเพียรพยายามอยู่ เรายังมีกิเลสอยู่ บางวันก็แรงมาก ๆ ด้วย
แล้ววันนั้นล่ะ ! เขามักจะมาบอกว่า เราผ่องใส
เวรกรรม...ของใครก็ไม่รู้
|