เอ...ฟ้าก็ยังไม่แลบ ไม่คำรณคำรามรับรองกันบ้างเลยหรือ...ฟ้าสางแล้ว พวกเขามากันแล้ว มากันเต็มหน้ากุฏิ เรานี่นะ ก็นั่งตัวตรงงงงุนอยู่
"โถ...เจ้าประคุณ พวกเรามาดูกัน ท่านไม่เหมือนเดิมจริง ๆ นั่งนิ่งทรงอุเบกขางามตามตำราเสียจริงหนอ..."
ลูกหลานของหลวงตาเอย หลังจากอ่านคราวนี้แล้ว ห้ามมาถามซ้ำเหตุการณ์ตอนนี้ นึกถึงแล้ว...ขนหัวมันลุก...ลูกหลานเอ๋ยอุตส่าห์มีชีวิตรอดนรกมาได้ อย่าถามให้หลวงตาเสียใจเลยหนา
เอาละ ก็เล่ากันต่อไป ก็ขึ้นรถตู้กันไปเต็มคัน ทั้งพระและฆราวาส มีติดตามกันอีกหลายคัน ไอ้หนูอีหนูเอ๋ย ... พอเข้าเขตลพบุรีต่อโคราช อ้าว...ว่าจะไม่ออกชื่อสถานที่... พอรถวิ่งเข้าเขตทิวเขา เรื่องที่ชวนให้เชื่อก็เกิดขึ้น
อยู่ดี ๆ ฝนก็ปรอยพรำลงมา อนิจจา ! มันตกลงมาแกล้งใครบ้างก็ไม่รู้ คือมันตกถูกหลังคารถเพียงครึ่งคัน ...อีกซีกครึ่งคันแดดออก เห็นเป็น ๒ ซีก ๒ ฝั่งไปตลอดทางข้างหน้าโน้น...ผู้คนในรถก็ฮือฮาปลื้มปีติกันสิหนอ หันมายกมือไหว้หลวงตา (พระองค์สำคัญของเขา) ลูกตาเชื่อมไปด้วยน้ำตาแห่งความปีติสุข หน้าตาของเขาผ่องใสยองใยกันเชียวละ (ลืมบอกไปว่า พอออกจากวัดท่าซุงฟ้าก็ครึ้มแล้วละ ...ดูท่านทำเถิดลูก)
หลวงตาทำอย่างไรล่ะทีนี้ ใจเรานะ.. ที่จริงก็อยากเป็นพระอรหันต์ ไม่อย่างนั้นจะบวชเข้ามาทำอะไร? แต่ใครล่ะจะรู้จักอารมณ์ใจเราเท่าตัวเราเอง มันไม่ใช่ ! ก็เลยแกล้งอธิษฐานจ้องตาไปที่ยอดเขาทางขวามือ
"...ถ้าที่เห็นอยู่ ที่เขาเชื่อกันอยู่มันเป็นความจริง เอ้า ! ขอให้ฟ้าแลบหรือฟ้าผ่าเป็นสายฟ้าลงไปที่ยอดเขา แล้วแลบให้ยาวติดต่อกันไป...ตลอดทิวเขาทั้ง ๓ ยอดนั้นเดี๋ยวนี้เลย..."
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ทาริกา : 25-07-2009 เมื่อ 15:28
|