จิตตานุภาพบังคับผู้อื่น
จิตตานุภาพอย่างอ่อน สามารถใช้สายตา น้ำเสียง และด้วยกระแสจิตประกอบคำพูด ซึ่งจะเป็นเครื่องจูงใจคนให้เชื่อฟัง ลักษณะไม่หวาดหวั่นครั่นคร้ามต่อใครๆนั้น ไม่ใช้ชีวิตหัวดื้อบึกบึน ซึ่งไม่นับว่าเป็นจิตตานุภาพ ต้องเป็นคนสุภาพสงบเสงี่ยมเคารพนบนอบต่อบุคคลที่ควรเคารพ แต่ทว่าหัวใจของคนชนิดนั้น ไม่หวาดหวั่นเกรงกลัวใคร และสามารถแสดงให้เห็นว่า ตัวเป็นมนุษย์คนหนึ่งอยู่ในโลก และเป็นมนุษย์ที่รู้จักคิด รู้จักพูด รู้จักทำ
คนที่สามารถเป็นนาย ตนเอง ไม่ตกเป็นทาสของหัวใจคนอื่น และสามารถดูดดึงหัวใจคนเข้ามาเชื่อฟังเกรงกลัวนั้น ถ้าสังเกตให้ดีแล้ว จะเห็นได้ว่ามี ๔ ประการ
๑. สายตาแข็ง มีอำนาจในตัว
๒. เสียงชัดแจ่มใส
๓. ท่าทางสงบเสงี่ยมและเป็นสง่า
๔. รู้จักวิธีชักจูงหัวใจคนให้หันเข้ามาอยู่ในคลองความคิดของตัว
พยายามอ่านหนังสือหน้าหนึ่งโดยไม่กะพริบตาเลย ทำให้สายตาแข็งได้
อ่านหนังสืออย่างช้าๆ ให้ชัดถ้อยคำทุกๆตัว และให้ได้ระยะเสมอกัน ทำให้เสียงชัดแจ่มใส
เวลาพูด พยายามพูดให้เป็นจังหวะ อย่าให้ช้าบ้างเร็วบ้างและให้ชัดถ้อยคำเสมอ ไม่ให้อ้อมแอ้มหรือกลืนคำเสียครึ่งหนึ่ง เป็นการฝึกหัดให้เสียงชัดเจนแจ่มใส
บุคคลที่มีสง่า คือคนที่บังคับร่างกายให้อยู่ในอำนาจหัวใจได้เสมอ มีท่าทางสงบเสงี่ยมเป็นสง่า ไม่แสดงอาการโกรธ เกลียด กลัว รัก เกลียด ขมขื่น ตกใจ สะดุ้ง เศร้าโศก ถ้าปรากฏไม่ทำอิริยาบถเคลื่อนไหวอันใดโดยไม่จำเป็น และโดยบอกความกำกับของใจ มีหน้าตาแจ่มใส อิริยาบถสงบเสงี่ยมเป็นสง่าอยู่ทุกขณะ การเคลื่อนไหวทุกอย่างทำด้วยความหนักแน่นมั่นคง อย่าให้รวดเร็วจนเป็นการหลุกหลิกหรือผึ่งผายจนเป็นการเย่อหยิ่ง หรืออ่อนเปียกจนเป็นการเกียจคร้าน ในเวลายืน ให้น้ำหนักถ่วงตัวอยู่ทั่วตัวเสมอ ไม่ให้ถ่วงแต่ส่วนใดส่วนหนึ่ง
รู้จักใช้วิธีชักจูงหัวใจคนให้หันเข้ามาในคลองความคิดของเรา
๑. หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดมีสิ่งที่จะชักจูงให้เขาละทิ้งข้อแนะนำของเรา
๒. จูงใจเขาให้หันเข้ามาในทางที่เราต้องการทุกที
วิธีป้องกันตัวไม่ให้จิตตานุภาพของคนอื่นบังคับเราได้
ให้ทำมโนคติให้เห็นประหนึ่งว่า กระแสดวงจิตของเราแผ่ซ่านป้องกันอยู่รอบตัวเรา จิตตานุภาพของผู้อื่นไม่สามารถจะเข้าถึงตัวเราได้ ให้ทำเวลาเข้านอนครั้งหนึ่ง และขณะที่อยู่ใกล้กับบุคคลที่เราระแวงว่า เขาจะให้จิตตานุภาพบังคับเรา
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ชินเชาวน์ : 15-07-2009 เมื่อ 11:35
|