ถาม : แล้วอุเบกขาจะเป็นฐานให้เข้าถึงอรูปฌานได้ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าเป็นอุเบกขา กำลังใช้ได้ แต่ถ้าจะทำอรูปฌาน อย่างน้อย ๆ ต้องจับภาพกสิณอย่างใดอย่างหนึ่งขึ้นมา ยกเว้นอากาสกสิณ หรือถ้าไม่มีความคล่องตัว ก็ต้องเว้นอาโลกกสิณไปด้วย
ถาม : ถ้ามีความคล่องตัวในอาโลกกสิณ ?
ตอบ : อาโลกกสิณจับเป็นดวงกสิณได้ยากเพราะอาศัยแสงสว่างเป็นดวงกสิณ
ถาม : แล้วถ้ามีความคล่องตัวก็จะแยกได้ ?
ตอบ : สามารถแยกได้ แต่คราวนี้ถ้าไม่มีความคล่องตัวก็เว้นไปเลย ไปจับกสิณที่อาศัยรูปชัด ๆ แทน คราวนี้พอจับกสิณแล้ว กำลังสมาธิที่ได้มาจากพรหมวิหาร ก็จะช่วยให้ดวงกสิณมั่นคงได้เร็ว จับติดตาได้ง่าย แล้วระดับการเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้นเร็ว เพราะว่าสมาธิทรงตัวแล้ว
ถาม : แปลว่าต้องเปลี่ยนกองกรรมฐาน ?
ตอบ : ให้กลับมาใช้คำภาวนากับจับรูปก่อน แต่ว่าสมาธิก็เท่าเดิมที่เราเคยทำได้ ในเมื่อพื้นฐานสมาธิมี เรื่องนี้ก็ง่ายแล้ว
ถาม : แต่จริง ๆ พรหมวิหารก็เป็นตัวสนับสนุนกันใช่ไหมคะ ? ถ้าเราแผ่เมตตาไปด้วยสมาธิจะรวมตัวเร็ว อันนั้นคือเราเจริญพรหมวิหาร ?
ตอบ : เรื่องของพรหมวิหาร ๔ ช่วยให้กำลังใจไม่แห้งแล้ง เกิดความชุ่มชื่นเบิกบาน ทำแล้วไม่อิ่ม ไม่เบื่อ ไม่หน่าย ถ้าไม่มีพรหมวิหาร ๔ คอยช่วยอยู่ บางทีก็รู้สึกแห้งแล้งอย่างไรไม่รู้ แล้วก็พาให้เบื่อไปเอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-10-2014 เมื่อ 02:27
|