พระอาจารย์กล่าวว่า "ใครจะร่วมบุญกฐินวัดท่าขนุนไปหลังห้อง มีวัตถุมงคลอยู่หน่อยหนึ่ง เป็นของหลวงปู่หลวง วัดป่าสำราญนิวาสกับแม่ย่าสุโขทัย อาตมาก็ไม่เคยคิดว่าจะเจอคนเป็น ๆ เดินอยู่บนพระจุฬามณีได้ ก็ไปเจอหลวงปู่หลวง ท่านเล่นไปทั้งตัวเลย ส่วนพวกเราใช้มโนมยิทธิถอดใจไป
มีอยู่วันหนึ่ง หลวงพ่อวัดท่าซุงบอกกับพวกอาตมาว่า "พวกแกไปสืบดูหน่อย ว่าแถวสิงห์บุรีมีพระหลวงตา รูปร่างท้วม ๆ ผิวขาวเหลือง ชื่อหลวงตาจวนไหม ?" กราบเรียนถามว่า "หลวงพ่อจะสืบไปทำไมครับ ?" ท่านบอกว่า "ข้าขึ้นไปจุฬามณี เจอท่านขึ้นไปทั้งตัวเลย" พวกเราก็ไปสืบหา ท้ายสุดก็รู้ว่าเป็นหลวงปู่จวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี พอมารุ่นอาตมาก็ไปเจอหลวงปู่หลวงไปทั้งตัวหมือนกัน ทั้ง ๒ องค์มรณภาพไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเล่าไม่ได้
ส่วนใหญ่แล้วรุ่นหลัง ๆ พอครูบาอาจารย์มรณภาพแล้ว พระเครื่องที่อยู่กับวัด มักจะเป็นของที่ทำเสริมขึ้นมา แต่พระเครื่องของหลวงปู่หลวงไว้ใจได้ เพราะว่าสมัยก่อนหมอเพชร (ท.พ.เพชรไพฑูรย์ จันทร์ชูเชิด) ไปหาเป็นประจำ แล้วเล่นบูชายกกล่องมาเลย สมัยแรก ๆ วัดท่านก็ไปยาก เพราะลักษณะเป็นวัดป่า ไม่ชอบความเจริญมากมายนัก ถนนเป็นลูกรัง หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า พระดีอยู่ที่ไหนให้สังเกตอยู่อย่างหนึ่งว่า วัดวาอารามจะเจริญมาก เพราะพระดีท่านไม่ค่อยเก็บเงิน ได้มาเท่าไรก็สร้างหมด"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 16-10-2014 เมื่อ 19:56
|