ดูแบบคำตอบเดียว
  #153  
เก่า 22-09-2014, 13:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 31,421
ได้ให้อนุโมทนา: 154,231
ได้รับอนุโมทนา 4,444,541 ครั้ง ใน 35,026 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำอย่างไรถึงจะอยู่ในสภาพที่กายในออกไปได้นาน ๆ ?
ตอบ : ต้องซักซ้อมเรื่องของกำลังสมาธิให้สูงขึ้น และมีความคล่องตัวมากขึ้น ถ้ากำลังสมาธิของเราไม่เพียงพอ ออกไปได้ระยะหนึ่งกำลังตก ก็จะกลับคืนสู่ร่างกายตามเดิม หรือว่าเกิดอะไรที่น่าสนใจขึ้นเกี่ยวกับร่างกาย สภาพจิตจะกลับสู่ร่างกายเอง ก็ไม่สามารถไปต่อได้ ในส่วนที่กำลังตกนั้น ในเมื่อสมาธิของเรากำลังไม่พอ ให้สังเกตว่าความชัดเจนจะหมดไปก่อน หลังจากนั้นพอจิตดึงกลับสู่ร่างกาย ความชัดเจนจะไม่มี จะหายไปเลย

ถาม : ตอนที่ออกไปทำไมไปสวรรค์หรือพระนิพพานไม่ได้ หรือเพราะหาไม่เจอ ?
ตอบ : อันนี้เกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุที่ ๑ ที่สำคัญที่สุด คือไม่ได้พิจารณาตัดร่างกาย ถ้าเราพิจารณาจนเห็นชัดว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเราอย่างแท้จริง สภาพจิตไม่เกาะไม่ห่วงในร่างกาย ก็สามารถที่จะออกไปได้โดยง่าย แล้วจะรู้เห็นได้ละเอียดยิ่ง ๆ ขึ้น

ข้อที่ ๒ คือ เราไม่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ก่อนว่าจะไปที่ไหน นั่งสมาธิจนอารมณ์ใจทรงตัวแล้ว ให้ตั้งใจว่าเราจะไปที่ไหน แล้วภาวนาต่อไป เมื่อสภาพจิตหลุดออกไป จะตรงไปยังสถานที่ที่เราต้องการ การที่เราออกไปแล้วไปไหนไม่ถูก บางคนออกไปแล้วมืดมาก เปะปะไปหน้าไปหลัง ไปซ้ายไปขวา ไปไม่ถูกแล้วย้อนก็กลับร่างกายตัวเอง ให้รู้ว่าเป็นเพราะเราขาดการพิจารณาวิปัสสนาญาณ ถ้าพิจารณาตัดร่างกายได้ละเอียดเท่าไร ก็สามารถรู้เห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ละเอียดเท่านั้น ก็แปลว่านอกจากไม่ได้ตัดร่างกายแล้ว เรายังไม่ได้ตั้งเป้าไว้ด้วยว่าออกไปแล้วจะไปไหน ก็เลยหาสวรรค์หาพระนิพพานไม่เจอ


ถาม : คนที่เข้ามาชวนคุยเป็นใครครับ ?
ตอบ : ตรงนี้ความจริงไม่ต้องถาม ในสภาพความเป็นทิพย์ ทันทีที่อยู่ต่อหน้าเขา สภาพจิตจะรายงานว่าเขาเป็นใคร ถ้าไม่มั่นใจให้ถามเขาด้วยตัวเราเอง ในเขตอื่นเขาไม่มีการโกหกกัน

ถาม : ถ้าทำสมาธิจนกายในออกไปได้แล้ว ต้องทำอย่างไรถึงจะก้าวหน้าในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ?
ตอบ : เป็นคำตอบที่ได้ตอบไปแล้วคือ หมั่นพิจารณาในวิปัสสนาญาณต่าง ๆ เอาไว้ ให้รู้เห็นอย่างชัดเจนว่าร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่มีอะไรที่ควรแก่การยึดถือมั่นหมาย เราออกไปในลักษณะนั้นจะเห็นชัดมาก เพราะเหมือนกับการถอดเสื้อ หรือเหมือนกับเราขับรถแล้วออกจากรถไป จะเห็นว่าเสื้อไม่ใช่ตัวเรา รถยนต์ไม่ใช่ของเราอย่างชัดเจน ในเมื่อร่างกายนี้ไม่ใช่ของเรา ร่างกายของคนอื่นก็ไม่ใช่ของเรา

ถ้าเห็นกว้างออกไป เออ...ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่ใช่ของเราเลย ไม่มีอะไรควรค่าแก่การยึดถือมั่นหมายทั้งหมด ควรจะพิจารณาบ่อย ๆ ทุกวัน ๆ วันละหลาย ๆ รอบ ยิ่งพิจารณาละเอียดมากขึ้นเท่าไร ความก้าวหน้าในการปฏิบัติจะยิ่งมีมากเท่านั้น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 22-09-2014 เมื่อ 19:42
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 164 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา