"หวังเจาจวินไม่ยอมติดสินบนบรรดาขันทีในวัง พอถึงเวลาต้องวาดรูปไปเสนอฮ่องเต้ เขาก็เลยวาดส่งเดช ไม่สวย พอถึงเวลาทางด้านบรรดาพวกหัวหน้าเผ่าต่าง ๆ จากชายแดนบุกรุกแผ่นดินจีนขึ้นมา อยากจะผูกสัมพันธ์ด้วย ขอให้ส่งสาวงามไปให้เขา ฮ่องเต้ก็เลยเลือกรูปห่วย ๆ ให้เสนาบดีส่งตัวไป ปรากฏว่าวันที่ไปส่งเดินทาง ฮ่องเต้ไปเห็นหวังเจาจวินเข้า เสียดายเข่าอ่อนไปเลย เขาใช้คำว่า "ปักษีตกนภา"
เตียวเสี้ยนนี่นักประวัติศาสตร์หลายคนยืนยันว่าไม่มีตัวตน แต่หลอกว้านจงเขียนไว้ในสามก๊ก จนกลายเป็นยอดหญิงงามไปแล้ว กวีให้คำจำกัดความว่า "จันทร์หลบโฉมสุดา" แม้ว่าพระจันทร์ออกจากกลีบเมฆมาเห็น ก็ต้องถอยกลับเข้ากลีบเมฆใหม่ เพราะสวยสู้ไม่ได้
ส่วนหยางกุ้ยเฟยนี่เป็นเจ้าแม่เครื่องสำอาง ต้นตำหรับใช้น้ำหอม ใช้น้ำนม ใช้ไข่มุก ฯลฯ เพื่อที่จะประทินความงามตัวเอง จนกระทั่งนักประวัติศาสตร์บางคนกระแนะกระแหนว่า สงสัยคงตัวเหม็นจัด ก็เลยต้องใช้สารพัดน้ำหอมมาอบผิวตัวเอง หยางกุ้ยเฟยนี่ต้องบอกว่าความงามล่มบัลลังก์ ฮ่องเต้ไม่ออกว่าราชการเลย กวีจีนเขาบอกว่า "มวลผกาละอายนาง" เขาว่าเวลาเดินเข้าไปชมสวน ดอกไม้เหี่ยวหมดเลย สวยสู้ไม่ได้ ไม่อยากแข่งความสวยด้วย หุบกลีบดีกว่า หยางกุ้ยเฟยภาษาจีนแต้จิ๋วเรียกว่า "เอี้ยกุยฮุย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 15:20
|