พระอาจารย์เล่าว่า "ช่วงก่อน ๆ ที่เศรษฐกิจยังดีอยู่ พวกปฏิทินเขาลงทุนเอาบรรดานักกลอนฝีมือเอกมาเขียนกลอนทำปฏิทินกัน ต้องบอกว่าเป็นทั้งศาสตร์ เป็นทั้งศิลป์ เป็นทั้งความงาม จัดอยู่ในสุนทรียศิลป์ มาระยะหลังไม่ค่อยลงทุน คุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ ยังเคยบอกว่า “โอ๊ย...ผมคิดแทบตายตั้งหลายวัน เขาให้มาแค่หมื่นเดียว” ให้มาหมื่นหนึ่งถ้าเป็นงบประชาสัมพันธ์บริษัทใหญ่ ๆ นี่ถือว่าถูกมากเลย ไปขอให้เขาเขียนกลอนให้ แต่ว่าที่อ่านแล้วจำแม่นติดใจก็คือกลอนของคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
พื้นดินถิ่นเก่าเจ้าเอย อบอุ่นคุ้นเคย คือเพื่อนคือมิตรชิดเชื้อ
เมตตาการุณย์อุ่นเอื้อ มีใจมาเจือ มีรักมีหวังรังรอง
ร่มเย็นเป็นหลักปักปอง ทุ่งท่านาทอง ในถิ่นมิ่งทิพย์มณฑล
ผาถ้ำน้ำเถื่อนเยือนยล ย่ำไพรเหยียบพน หยัดพื้นอยู่พ่างพสุธา
ฉ่ำพรำคล่ำคล้อยเมฆา ชีวิตชีวา ชุบวันชูวันฉานฉาย
เขาจะหารูปที่เข้ากับกลอนมาลง “พื้นดินถิ่นเก่าเจ้าเอย อบอุ่นคุ้นเคย คือเพื่อนคือมิตรชิดเชื้อ” เขากำลังปล่อยเนื้อทรายคืนสู่ธรรมชาติ แล้วเนื้อทรายก็เดินจด ๆ จ้อง ๆ กล้า ๆ กลัว ๆ “เมตตาการุณย์อุ่นเอื้อ มีใจมาเจือ มีรักมีหวังรังรอง” เป็นนก ๒ ตัวกำลังไซร้ขนให้กัน “ร่มเย็นเป็นหลักปักปอง ทุ่งท่านาทอง ในถิ่นมิ่งทิพย์มณฑล” นี่เขาเอาภาพนกน้ำในบึงบอระเพ็ดมาลงไว้ “ผาถ้ำน้ำเถื่อนเยือนยล ย่ำไพรเหยียบพน หยัดพื้นอยู่พ่างพสุธา” เป็นเสือกำลังเดินจากลำห้วยขึ้นฝั่ง
ที่ขำก็คือเมียร์แค็ทหรือพังพอนแอฟริกัน เขาเขียนว่า “กลางมิตรกลางหมู่กรูกรำ กลางดงดึกดำ จักตื่นจักตั้งตาตระเวน" พังพอนพวกนี้ชอบยืนยามช่วยกันระวังภัย
"อยู่ป่ายืนป่าเป็นเกณฑ์ ปกพื้นปฐเพนทร์ พักผาผ่อนไพรพิงพง" เป็นภาพแม่ช้างกับลูกช้างกำลังยืนเล่นฝุ่นกัน
"ก่ายไม้กอดไม้ในดง ดีกว่านอนกรง จำกัดกั้นสิทธิ์เสรี” เป็นภาพลิงกำลังกอดกิ่งไม้หลับครอก กว่าจะครบ ๑๒ เดือนนี่ คนหารูปก็หาจนเหนื่อย ขณะที่คนเขียนก็เขียนยากเหลือเกิน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-09-2014 เมื่อ 11:02
|