มีป้าคนหนึ่งนำซองมาถวายพระอาจารย์ บอกว่าทำบุญสร้างปราสาททองคำ
พระอาจารย์จึงบอกว่า "อาตมาไม่ได้สร้าง สร้างแต่พระชำระหนี้สงฆ์ ถ้าอาตมาต้องเริ่มต้นสร้างปราสาททองคำใหม่ ไม่เอานะจ๊ะเพราะต้องลงทุนเป็นพันล้าน เรื่องของพระ เวลาโยมเขาระบุให้ทำอะไร ต้องทำอย่างนั้น เราเปลี่ยนเจตนาเขาไม่ได้ เขาปรับโทษเท่ากับย้ายเจดีย์ ก็แปลว่าลงอเวจีมหานรกเท่านั้น
คราวนี้โยมเขาจะสร้างปราสาททองคำ อาตมาไม่เอาด้วยหรอกจ้ะ มีอยู่เที่ยวหนึ่ง ตอนนั้นไปอยู่วัดท่าขนุนปีแรก หลวงพ่อจังหวัดท่านสั่งให้ไปช่วยบูรณะวัดท่าขนุน ตรงโลงแก้วหลวงปู่สาย คนซื้อเขาซื้อตู้ปลามาบรรจุ เราก็รำคาญสายตา พอไปอยู่วัดท่าขนุนก็เลยสั่งโลงแก้วประดับมุกมาถวาย
ปรากฏว่าญาติโยมก็ไปช่วยกันเช็ด ช่วยกันถู เสร็จสรรพเรียบร้อยยกเก็บเข้าที่ แล้วก็มีคนที่มีความคิดบรรเจิดว่า โต๊ะหมู่ไม้มันไม่เข้ากับโลงแก้ว ถ้าเป็นโต๊ะหมู่ประดับมุกจะดีมาก ว่าแล้วเขาก็ควักเงิน ๑๐๐ บาท เป็นเจ้าภาพโต๊ะหมู่ อาตมาก็ต้องโทรไปสั่งโต๊ะหมู่ราคา ๘๘,๐๐๐ บาท โดยที่อาตมาจ่ายไป ๗๙,๙๐๐ บาท..! เพราะฉะนั้น..ต่อไปใครจะทำอะไร ที่ต้องจ่ายเยอะ ๆ ไม่ต้อง ยกเว้นเป็นเจ้าภาพเลย
เราเปลี่ยนเจตนาเขาไม่ได้ เพราะพระพุทธเจ้าท่านปรับโทษไว้ ต้องทำตามที่เขาให้ ดังนั้น..ระยะนี้ ถ้าใครมาแบบผิดท่าผิดทางอาตมาไม่เอาทั้งนั้น"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย วสันต์วิษุวัต : 16-07-2015 เมื่อ 17:57
|