‘เวลาจะไปต้องระวังนะ พระองค์นี้ไม่ใช่พระธรรมดานะ พระองค์นี้เป็น.. มหานะ’ เขาว่า ‘แล้วไป..เดี๋ยวท่านจะเขกหน้าผากเอานะ ไปสู้ท่านไม่ได้ ท่านจะเขกหน้าผากเอานะ ให้ระวังนะ ถ้าเป็นพระธรรมดา เราก็พอจะพูดอะไรต่ออะไรกันได้ นี่ท่านเป็นมหาเสียด้วย ท่านทำอย่างนั้นนี่นะ เราไปว่าสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ เดี๋ยวท่านจะตีหน้าผากเอา’ เขาเตือนลูกบ้านเขา
พอมาถึง เราก็เอาจริง ๆ หลั่งไหลกันมานี่ ‘โอ้โฮ.. นี่มาอะไรนี่ จะมาแห่พระเวสสันดรเข้าเมืองเหรอ ? อาตมาไม่ใช่พระเวสสันดรนะ’
‘ไม่ใช่ ๆ’
‘อย่างนั้นมาอะไร ?’
เขาก็มาเล่าตามเรื่องนี่แหละให้ฟัง มันก็มีอยู่สองจุด จุดหนึ่งว่า ‘ท่านไม่ตายแล้วเหรอ ? ถ้าท่านไม่ตาย ท่านไม่โมโหโทโส อยู่เหรอ ?’
พอเขาพูดจบลง เราก็มีอยู่สองจุด เราก็ถาม ‘แล้วเป็นยังไง ? ตายแล้วยังล่ะ ?’
‘เอ๊.. ก็ไม่เห็นตาย ท่านยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ ไม่เห็นมีอะไรน่าตาย’
‘แล้วเป็นยังไง โมโหโทโสอยู่ไหม ?’
‘ก็ไม่เห็นท่านโมโหโทโส ท่านยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา’
‘เอาละ ให้เข้าใจนะ การอดอาหารนี่.. อาตมาอดไม่ใช่เพื่อฆ่าตัวเองนะ อดเพื่อฆ่ากิเลส ซึ่งมันฆ่ายาก กิเลสนี่ มันอยู่ภายในหัวใจนี่ ต้องใช้การอดอาหารช่วย แล้วความโมโหโทโสก็เป็นกิเลส จะโมโหโทโสไปหาประโยชน์อะไร มีเท่านั้นเหรอ ?’
‘มีเท่านั้นแหละ’
‘ไป’ ไล่กลับ ยังไม่ถึงสิบนาทีนะ.. ไล่กลับ
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-10-2013 เมื่อ 11:13
|