ถ้าเห็นเป็นปกติธรรมดาอย่างนี้ หรือปล่อยวางได้ลักษณะว่า ธรรมดา..ช่างมันเถอะ หลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยง หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็เผชิญหน้าไปตามปกติ ถ้าเป็นอย่างนั้นจิตของเราก็จะไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงขณะของวัน ถ้าเช่นนั้นก็เป็นการวัดผลได้อย่างชัดเจนว่า การปฏิบัติธรรมของท่านไม่เสียเปล่า เพราะสามารถเอาไปใช้ในชีวิตจริงได้ โดยเฉพาะเอาไปวัดผลการปฏิบัติของเราได้ ว่าเรายังยินดียินร้ายกับสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามากระทบทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจหรือไม่
ถ้ารู้ตัวว่าเรายังยินดียินร้ายอยู่ อันดับแรก ก็พยายามสร้างสมาธิของเราให้เข้มข้น ให้ทรงตัวมากกว่านี้ เพื่อที่กำลังของสมาธิจะกด รัก โลภ โกรธ หลง ให้ดับลงชั่วคราว ความยินดียินร้ายต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้น หรือว่าใช้ปัญญาพิจารณาเห็นความเป็นปกติ เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติของสิ่งทั้งหลายเหล่านั้น แล้วปล่อยวางลงได้ ก็จะไม่กระทบกระทั่งกับสิ่งอื่น ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้ ญาติโยมทั้งหลายก็จะสามารถใช้การกระทบกระทั่งกับสิ่งต่าง ๆ ทั้งหลายในแต่ละวัน เป็นตัววัดผลการปฏิบัติของเราได้เป็นอย่างดี
ลำดับต่อไปขอให้ทุกท่าน กำหนดการภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
วันศุกร์ที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖
(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกาและเถรี)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-09-2013 เมื่อ 16:48
|