ท่านเล่าถึงบรรยากาศและสภาพความเป็นอยู่ระหว่างออกเที่ยวกรรมฐาน ดังนี้
“... เราออกเที่ยวกรรมฐานไม่เคยเว้นแต่ละปี พอออกพรรษาแล้วก็ออกไปเที่ยวอยู่ตามป่าเสียก่อน ระยะเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ไม่ต้องแสวงหาที่มุงที่บังอยู่ตามเชิงเขา เพราะอากาศยังไม่ร้อน เที่ยวอยู่ตามร่มไม้
ถ้าเข้าหน้าร้อน เดือนมีนาคมจะก้าวถึงเดือนเมษายน ขึ้นเขาขึ้นถ้ำ ในถ้ำอากาศเย็น
บางทีเสือมากัดควายอยู่ข้าง ๆ มุ้งก็มีเสียงควายร้องเอิ้กอ๊าก ๆ เราก็เผิงผางออกไปจากมุ้ง ดูว่ามันมาทำอะไรกันอยู่ เสียงเราดังลั่นขึ้น มันก็เลยเงียบไป ลำน้ำอูนทางที่จะต่อเข้าไปหนองผือเป็นดง ฟังเสียงควายร้องข้าง ๆ ริมลำน้ำอูน เสือก็อยู่ทางนี้ ควายก็หากินอยู่ทางนี้ บ้านเขาอยู่ทางนั้น แล้วเราอยู่ฝั่งนี้ คือมันกัดกันใกล้บ้าน
กลางคืนพอฝนกระหน่ำลงมา เสือโคร่งเข้ามากัดควาย เราก็ร้องเวิ้กว้ากขึ้น ทีนี้ลูกควายมันวิ่งเข้าในบ้าน แม่มันถูกเสือกัด แล้วก็ตะเกียกตะกายลงไปริมน้ำอูน ไอ้เสือตัวนี้ก็ไม่กล้าจะตามลงไป
เจ้าของเขาเห็นท่าไม่ดี อ้าว!.. ลูกควายตัวนี้มันมา ‘ยังไง’ ไม่ใช่เสือกัดแม่มันหรือ ? เขาเลยรีบออกมา ออกมาก็พอดีมาเห็นเสือกัดอยู่ข้างนอกนี้ เขาก็เลยมาก่อไฟให้มัน ป้องกันไม่ให้เสือมากัดซ้ำอีก เพราะถ้าไม่มีไฟ เสือมันอาจมา ถ้ามีไฟก็แสดงถึงเครื่องหมายของคน มันก็ไม่มา
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-08-2013 เมื่อ 16:23
|