พระอาจารย์กล่าวว่า "จะเล่นพระเครื่องต้องเอาทีละอย่าง ศึกษาทีละเนื้อ ไม่อย่างนั้นแล้วจะมั่วไปหมด แม้กระทั่งศึกษาทีละเนื้อ อย่างเช่นเนื้อผงหรือเนื้อดิน เราก็ต้องรู้ว่าเนื้อนี้สร้างด้วยอะไรบ้าง ต้องรู้ถึงลักษณะเด่นว่าเวลาสร้างขึ้นมาแล้ว จะมีอะไรเป็นจุดเด่นของเนื้อชนิดนั้น ลักษณะของเนื้อใหม่เป็นอย่างไร เนื้อปานกลางเป็นอย่างไร เนื้อเก่าเป็นอย่างไร ซึ่งจะดูยากสักหน่อย
แต่ว่าถ้าเป็นเสียครั้งแล้วก็จะจำได้ตลอดชีวิตเลย ถ้าเล่นหลาย ๆ อย่าง ใครว่าอะไรดีก็แห่ตามเขาไป เดี๋ยวก็เจ๊ง เพราะค่าครูมักจะแพง กว่าจะรู้จริงแต่ละอย่างนี่หมดไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร
อาตมาได้เปรียบ เพราะพี่ชายเล่นพระมาตั้งแต่อาตมายังตัวเล็ก ๆ วัน ๆ กับพวกเพื่อนร่วมก๊วน ๔ - ๕ คน มากินน้ำชากาแฟส่องพระกันทั้งวัน เสร็จแล้วพระน้องชายก็มาชอบต่อ ตั้งแต่พวกเรายังเรียนป. ๕ - ๖ ก็มีพระเก่าดี ๆ กันคนละหลาย ๆ องค์ อย่างพระถ้ำเสือพิมพ์ตุ๊กตา พระถ้ำเสือพิมพ์ใหญ่ พระขุนแผนพิมพ์ไข่ผ่าซีก ฯลฯ เพราะตอนนั้นบ้านอยู่กำแพงแสนติดสุพรรณบุรี ก็ต้องเล่นของในพื้นที่ก่อน คราวนี้พอดูเป็นแล้วก็สบาย
บางทีรุ่นใหญ่เขาสอนถึงขนาดให้เอาน้ำหยดใส่พระถ้ำเสือ หยดลงก็หายวาบเลย องค์นี้ตีไปเลย ๘๐ เปอร์เซ็นต์ของแท้ ถามว่าทำไม ? เพราะของที่ผ่านการเผามาเก่านานขนาดนั้น ความชื้นจะมีน้อยมาก ฉะนั้น..ถ้าความชื้นลง จะถูกดูดวูบหายเกลี้ยงเลย เขาจะมีจุดเด่นจุดตาย ลักษณะพิมพ์ทรงที่ต้องจำให้แม่น เรียนทีละอย่างแล้วจะแม่น ถ้าเรียนหลาย ๆ อย่างมักจะมั่ว"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-06-2013 เมื่อ 19:01
|