ดูแบบคำตอบเดียว
  #51  
เก่า 25-04-2013, 20:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,672
ได้ให้อนุโมทนา: 152,022
ได้รับอนุโมทนา 4,416,936 ครั้ง ใน 34,262 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ทำอย่างไรจะทำงานได้และภาวนาได้ด้วย ?
ตอบ : สติ..อย่างที่แนะนำคนเมื่อเช้า พอเราภาวนาจนกำลังใจทรงตัวแล้ว ให้เอาสติประคับประคองเอาไว้ พอประคองไว้แล้วก็แบ่งความรู้สึกส่วนหนึ่งอยู่ตรงนั้น ที่เหลือก็ทำงานไป ซ้อมบ่อย ๆ เดี๋ยวก็คล่องตัวเอง แม้กระทั่งคุยกันอย่างนี้ก็ทรงสมาธิได้

ถาม : สติตามไม่ค่อยทันค่ะ
ตอบ : ซักซ้อมสิจ๊ะ เดี๋ยวก็ทันเอง รู้ปัญหาแปลว่าแก้ได้ ถ้ารู้ปัญหาแล้วแก้ไม่ได้มีอยู่ ๒ อย่าง อย่างแรกคือไม่ตั้งใจแก้ อย่างที่ ๒ คือฉลาดน้อยเกินไป

ถาม : ภาวนาเวลาขับรถ แล้วว่างโล่งไปเฉย ๆ พอจับความว่างนั้นก็ไม่รับรู้อาการรอบข้าง ?
ตอบ : อย่างนั้นอันตรายนะจ๊ะ ใจต้องจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้า ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วเดี๋ยวจะกลายเป็นแยกใจทำอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยกัน ความเคยชินพอเห็นปุ๊บ ในอดีตเราเคยจับในลักษณะของอากาสกสิณ หรืออากาสานัญจายตนฌานมา เดี๋ยวว่างโล่งไปไม่รับรู้อะไรเลย ก็ชนกระจายอยู่ตรงนั้นเอง

ถาม : มันหลุด
ตอบ : ไม่ได้หลุด แต่เข้าสู่สภาวะสมาธิที่ลึกแล้วไม่สามารถบังคับร่างกายได้ เพราะว่าในอดีตเราเคยทำอย่างนั้นมา พอเห็นปุ๊บจำได้ อย่างของอาตมา ถ้าเห็นกอไผ่เขียว ๆ แล้วมีแสงแดดลอดออกมาเป็นสาย ๆ เมื่อไร เดี๋ยวกลับไปไหนก็ไม่รู้..หลายชาติเลย เป็นความเคยชิน

ถาม : ก็แบ่งได้
ตอบ : แบ่งได้ แต่แรก ๆ ไม่ได้ ไปหมดเลย พอไปหมดเลย คราวนี้จะไปบังคับรถอย่างไร กำลังขับอยู่ ขนาดร้อยเปอร์เซ็นต์ยังเกิดอุบัติเหตุมาเสียเยอะต่อเยอะแล้ว แล้วอยู่ ๆ เหลือนิดเดียวหรือไม่เหลือเลยจะไหวหรือ ?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-04-2013 เมื่อ 01:57
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 197 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา