เรื่องของการไปอยู่วัด ปฏิบัติที่วัด อย่าไปตั้งความหวังไว้สูงว่าทุกอย่างต้องดี เกิดจาก ๒ สาเหตุด้วยกัน สาเหตุที่ ๑ ก็คือ ไม่ว่าสถานที่จะดีแค่ไหน ครูบาอาจารย์ดีแค่ไหน แต่คนที่อยู่ในที่นั่นก็ยังเป็น “คน” ในเมื่อยังเป็น “คน” อยู่ โอกาสที่ “คน” กับ “คน” จะกระทบกระทั่งกันก็เป็นเรื่องปกติ ถ้าเราไปตั้งความหวังเอาไว้สูง คิดว่าทุกคนจะต้องดีกับเราหมดอย่างกับเป็นพระอรหันต์ ก็ฝันไปเถอะ..!
ประการที่ ๒ ก็คือ บุคคลที่ตั้งใจปฏิบัติจริง มักจะเจอการทดสอบหนัก ๆ แล้วการทดสอบก็มาในแง่ของรัก โลภ โกรธ หลง ดังนั้น..จะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม ต้องระมัดระวังตัวอยู่เสมอ ทำอย่างไรที่จะให้ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราสามารถเอามาพัฒนา กาย วาจา ใจ ของเราให้ดีกว่าปัจจุบันให้ได้ ถ้าทำอย่างนั้นได้ ก็แปลว่าเราจะมีแต่ความก้าวหน้าส่วนเดียว ถือคติง่าย ๆ แบบอาตมาตั้งแต่แรกคือ ใครวางก่อนก็สบายก่อน ใครไม่วางก็ช่างหัวมัน เชิญแบกไปเถอะ..!
ใหม่ ๆ ไปอยู่วัด อาตมายังเป็นวัยรุ่น ขนาดตอนบวชอายุ ๒๗ เจอบางคนก็ยังเรียกว่าเณรอยู่เลย ตอนนี้ ๕๔ ปี ค่อยดูเป็นพระขึ้นมาหน่อยหนึ่ง ตอนนั้นหน้าตาไม่ให้ บุคลิกไม่ให้ แต่ดันเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด เอาแต่ภาวนาอย่างเดียว คนอื่นเขาก็ยิ่งหมั่นไส้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-04-2013 เมื่อ 19:52
|