ดูแบบคำตอบเดียว
  #29  
เก่า 15-12-2012, 11:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,657
ได้ให้อนุโมทนา: 151,979
ได้รับอนุโมทนา 4,416,133 ครั้ง ใน 34,247 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ส่วนใหญ่แล้วการปฏิบัติธรรม พอปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่ง ก็จะโดนหลอกว่าตัวเองมีความพิเศษอย่างนั้น มีความพิเศษอย่างนี้ กลายเป็นมานะถือตัวถือตน ก็เลยไม่หลุดพ้นเสียที เคยเจอเด็กอยู่คู่หนึ่ง โดนหลอกว่าเป็นมนุษย์พิเศษ เกิดมาเพื่อกู้โลก กู้ประเทศชาติโดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นควรจะสร้างมนุษย์พิเศษประเภทนี้ให้มาก ๆ เขาก็เลยไปมีลูกเสีย ๔ - ๕ คน หลอกได้แสบมากเลย คราวนี้มัวแต่เลี้ยงลูกอยู่ จะเอาเวลาที่ไหนไปปฏิบัติธรรม..!

ดังนั้นพวกกำลังใจดีอย่างหนึ่ง พวกสร้างบารมีมามากอย่างหนึ่ง เวลาทดสอบเขาก็ต้องทดสอบเจ็บ ๆ ถ้าฉลาดน้อย เจออะไรแล้วเชื่อเลยก็เป็นอันว่าเสร็จ ติดอยู่ตรงนั้น ไม่เป็นอันได้ไปไหนหรอก

เรื่องของข้อมูลศึกษาแต่พอสมควร แล้วก็รีบทำ..มุ่งลัดตัดตรงไป ไม่อย่างนั้นข้อมูลนั้นแหละ จะย้อนกลับมาทำอันตรายเราเอง เพราะรู้มากเกิน

พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ในอลคัททูปมสูตร ที่บอกว่าภิกษุบางรูปศึกษาพระไตรปิฎกเหมือนกับจับงูข้างหาง ไปคว้าหางงู งูจะแว้งกัดเอาเมื่อไรก็ได้ จะไม่อาศัยตำราหรือไม่อาศัยพระไตรปิฎกก็ไม่ได้ อาศัยตำราอาศัยพระไตรปิฎก ก็อย่ายึดติดมากเกินไป ศึกษาแค่ส่วนที่จำเป็นแล้วเร่งรัดปฏิบัติให้เกิดผล ไม่ใช่เรียนรู้ทุกเรื่องแล้วก็ดีแต่เอาไปคุยอวดชาวบ้าน เพราะถ้าเป็นลักษณะอย่างนั้นจะเป็นการจับงูข้างหาง ตำราหรือพระไตรปิฎกจะย้อนกลับมาทำอันตรายเราทีหลัง

โบราณเขาบอกว่ารู้มากยากนาน รู้น้อยพลอยรำคาญ ก็เหลืออยู่อย่างเดียวคือต้องรู้พอดี ๆ
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-12-2012 เมื่อ 14:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 237 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา