หัวหน้าก๊กเป็นพระจริง ๆ แต่ท่านไม่ได้คิดที่จะตั้งตนเป็นใหญ่หรอก พอบ้านแตกสาแหรกขาดแล้วท่านมีความสามารถมาก ชาวบ้านเห็นความสามารถท่านจึงไปขอพึ่งบารมี ในเมื่อไปพึ่งบารมีกลายเป็นก๊กใหญ่ขึ้นมา มีกองกำลังป้องกันตนเอง อย่างไรเขาก็ต้องคิดว่าแข็งเมือง
สมัยก่อนไม่ได้ใช้โทรศัพท์คุยกันได้อย่างสมัยนี้ กว่าจะเจรจากันรู้เรื่องเขาก็หมายมั่นปั้นมือแล้วว่าคุณแข็งข้อ ก็ลุยกันเลย กองทัพเขามายันกำแพงเมืองแล้วจะไปคุยอะไรกัน ก็ต้องใส่กันก่อน ท่านที่เจตนาตั้งตนเป็นใหญ่มีเยอะ ส่วนท่านที่ไม่ได้เจตนาแต่สถานการณ์พาไปก็มี
แบบเดียวกับพระสะล่า เป็นพระกะเหรี่ยง สึกออกมานำกำลังชาวบ้านไปโจมตีราชวงศ์คองบองของพระเจ้าอลองพญาสำเร็จ ได้ครองราชย์อยู่ระยะหนึ่ง แต่พอทางฝ่ายพม่าตั้งหลักได้ด้วยกำลังที่เหนือกว่ากันจนนับไม่ได้ เขาทุ่มกำลังเข้ามาประเภทเอาซากศพถมกำแพง ก็ต้องแพ้เขา ลุยหน้าเข้ามา คนฆ่าก็ฆ่าจนมือไม้อ่อน ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหนก็เหมือนกัน
อย่างหลวงพ่ออุตตะมะก็เหมือนกัน ด้วยบารมีของท่าน ทั้งพม่า ทั้งกะเหรี่ยง ทั้งมอญ ให้ความเคารพท่าน ไม่อย่างนั้นตีกันตาย เพราะปกติพวกนี้เข้ากันไม่ได้ แต่ว่ากะเหรี่ยงกับมอญอยู่รวมกันได้ เพราะหลวงปู่ท่านบอกแล้วว่า ถ้าทะเลาะกันท่านจะไม่ให้อยู่ด้วย อยากอยู่เมืองไทยกับท่านต้องไม่ทะเลาะกัน ต้องปฏิบัติตามกฎหมายเมืองไทย
คราวนี้มอญเขายังมีกองกำลังกู้ชาติอยู่ พอถึงเวลาทหารพม่าไล่ตี ทหารมอญถอยหนีเข้าวัด พอทหารมอญถอยหนีเข้าวัด ทหารพม่าเคารพหลวงพ่ออุตตะมะ เขาก็ถือว่าเอ็งหนีได้หนีไป ข้าก็หุงข้าวกินรออยู่ข้างนอก ออกมาเมื่อไรค่อยตีกันใหม่
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2012 เมื่อ 19:50
|