ดูแบบคำตอบเดียว
  #134  
เก่า 02-11-2012, 09:33
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,887 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

อุบายฝึกม้าพยศ เตือนศิษย์

จากการที่โหมนั่งภาวนาตลอดรุ่งถึง ๙ - ๑๐ คืน แม้จะไม่ทำติดต่อกัน คือเว้น ๒ คืนบ้าง ๓ คืนบ้าง หรือบางทีก็เว้น ๖ - ๗ คืนก็มี ท่านทำเช่นนี้ตลอดพรรษา จนถึงกับเป็นที่แน่ใจในเรื่องทุกขเวทนาหนักเบามากน้อย เข้าใจวิธีปฏิบัติต่อกัน สามารถหลบหลีกปลีกตัวแก้ไขกันได้อย่างทันท่วงที จึงไม่มีคำว่าสะทกสะท้าน แม้จะตายก็ไม่กลัว เพราะได้พิจารณาด้วยอุบายอันแยบคายเต็มที่แล้ว สติปัญญาจึงเท่าทันต่อความตายทุกอย่าง

การที่ท่านหักโหมร่างกาย ด้วยการนั่งตลอดรุ่งเช้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้ ทำให้ผิวหนังในบริเวณก้นได้รับความกระทบกระเทือนอยู่บ่อยครั้ง จนถึงขั้นช้ำระบม พุพอง แตก น้ำเหลืองไหลเยิ้มในที่สุด พอนานวันเข้า หลวงปู่มั่นก็เมตตาเตือนแย็บออกมาว่า

“กิเลสมันไม่ได้อยู่กับร่างกายนะ มันอยู่กับจิต เหมือนสารถีฝึกม้า”

จากนั้นก็พูดต่อว่า “ม้าที่เวลามันกำลังคึกคะนอง มันไม่ยอมฟังเสียงเจ้าของเลย ต้องทรมานมันอย่างเต็มที่ ไม่ควรให้กินหญ้าก็ไม่ให้มันกินเลย ทรมานมันอย่างหนัก เอาจนมันกระดิกไม่ได้


ทีนี้.. พอมันยอมลดพยศลงก็ผ่อนการทรมาน เมื่อมันผ่อนความพยศลงมาก การฝึกทรมานก็ผ่อนกันลงไป ให้กินหญ้ากินอะไรบ้าง

ถ้าม้ามันเป็นการเป็นงานแล้ว เราก็ไม่ทรมานมัน ให้การรักษา การระมัดระวัง การบำรุงมันไป เวลาต้องการจะใช้ประโยชน์อะไรก็ใช้มันฉันใด จิตเวลามันกำลังคึกคะนองผาดโผนโลดเต้น ก็เอามันอย่างหนักฉันนั้นเหมือนกัน”

หลวงปู่มั่นเตือนท่านเพียงเท่านี้ก็เข้าใจได้ทันที เพราะเคยร่ำเรียนเรื่องนี้สมัยเรียนปริยัติมาก่อนแล้วจึงลงใจ และยอมรับในคำเตือนของครูบาอาจารย์ทันที ท่านเปรียบการแย็บเตือนครั้งนี้ เหมือนกับว่าหลวงปู่มั่นเอาไม้ทั้งท่อน โยนตูมให้ไปเลื่อย ไปไสกบลบเหลี่ยม เจียระไนเอาเอง โดยไม่มีการแจกแจงอะไรให้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 02-11-2012 เมื่อ 19:18
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 32 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา