ดูแบบคำตอบเดียว
  #137  
เก่า 29-09-2012, 11:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,704
ได้ให้อนุโมทนา: 152,039
ได้รับอนุโมทนา 4,418,442 ครั้ง ใน 34,294 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : (ไม่ได้ยิน)
ตอบ : นั่นเป็นพิธีกรรมในศาสนาของเขา พูดง่าย ๆ ก็คือไปเน้นเอาส่วนเปลือกที่เห็น ไม่ได้ไปเน้นเอาแก่น

"มีพราหมณ์ถามพระพุทธเจ้าว่า “ครูทั้ง ๖ ปฏิญาณตนว่าเป็นพระอรหันต์ มีสำนักไหนที่เป็นพระอรหันต์จริงบ้าง ?” พระพุทธเจ้าตรัสว่า ถามเรื่องพวกนั้นไม่ได้ประโยชน์หรอก มาฟังธรรมดีกว่า แล้วพระองค์ท่านก็เปรียบว่า
บุรุษต้องการแก่นไม้ แต่ตัดไปแต่กิ่งไม้ใบไม้ก็มี ถากไปแต่เปลือกไม้ก็มี ถากไปแต่กระพี้ก็มี กว่าจะไปถึงแก่น

ท่านเปรียบว่าลาภ ยศ สักการะ ชื่อเสียง เหมือนกับกิ่งไม้ ใบไม้ พอบวชเข้ามาแล้วมีลาภสักการะเข้ามา ก็ยินดีพอใจอยู่แค่นั้น ไปดูถูกคนอื่นว่าไม่มีลาภสักการะเหมือนเรา เท่ากับว่าได้แต่กิ่งไม้ใบไม้ไป บางคนรักษาศีลเคร่งครัด ก็ยินดีพอใจแค่นั้น ไปดูถูกคนอื่นว่าไม่มีศีลเหมือนเรา ก็เท่ากับได้เปลือกไม้ไป บางคนทำสมาธิจนกระทั่งทรงตัว แล้วก็ไปภูมิใจดีใจแค่นั้น ว่าคนอื่นทำไม่ได้อย่างเรา ก็เท่ากับได้กระพี้ไป กว่าจะไปถึงญาณทัศนะที่เป็นแก่นว่ากันหลายยก

กลายเป็นว่าส่วนของพิธีกรรมจะเป็นส่วนที่คนเห็นง่ายและเข้าถึงได้ง่าย แต่ปัจจุบันนี้พวกพิธีกรรมของเราคลุมเรื่องของแก่นธรรมไปเยอะแล้ว คลุมจนจะหาแก่นไม่เจออยู่แล้ว..!"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2012 เมื่อ 13:10
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 176 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา