กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=126)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=9077)

ตัวเล็ก 15-11-2022 18:40

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕



เถรี 16-11-2022 06:34

วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของทางการศึกษาคณะสงฆ์ เพราะว่าเป็นวันสอบธรรมศึกษาประจำปี ๒๕๖๕

การเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรมนั้นแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน ส่วนหนึ่งเรียกว่า นักธรรม มีชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก สำหรับพระภิกษุสามเณรได้เล่าเรียนกัน

อีกส่วนหนึ่งเรียกว่าธรรมศึกษา มีชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอกเช่นกัน สำหรับฆราวาสญาติโยมที่สนใจในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เรียนคล้ายคลึงกับทางด้านพระภิกษุสามเณร เพียงแต่ว่าวิชาพระวินัย หรือว่าศีลพระนั้น ทางด้านธรรมศึกษาของฆราวาส ถ้าเป็นชั้นตรีก็เรียนเรื่องของเบญจศีล เบญจธรรม ถ้าเป็นชั้นโทก็เรียนในเรื่องของกรรมบถ ๑๐ ถ้าเป็นชั้นเอกก็เรียนเรื่องของอุโบสถศีล เป็นต้น

ในส่วนนี้ เมื่อถึงเวลาแล้วทางด้านวัดวาอารามต่าง ๆ ซึ่งมีครูพระสอนศีลธรรมเข้าไปทำการสอนตามโรงเรียน ก็เท่ากับว่าจะช่วยเน้นเพื่อช่วยให้เด็กสอบทางด้านของธรรมศึกษา ต้องบอกว่าวัดท่าขนุนนั้นน่าสงสารมาก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าบางวัดไม่มีโรงเรียนอยู่ใกล้พื้นที่วัดเลย ไม่ต้องรับผิดชอบเป็นประธานสนามสอบด้วยตนเอง วัดส่วนใหญ่แล้วก็มีโรงเรียนในพื้นที่รับผิดชอบเพียงโรงเรียนเดียว

แต่ว่าวัดท่าขนุนนั้น มีโรงเรียนในความรับผิดชอบถึง ๕ โรงเรียนด้วยกัน ก็คือโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมเต็มรูปแบบ โรงเรียนอนุบาลทองผาภูมิ โรงเรียนเทศบาลทองผาภูมิ โรงเรียนวัชรวิชญ์ และโรงเรียนบ้านเสาหงษ์
ในระยะหลังนี้การเรียนธรรมศึกษาก็ยังมีการแยกย่อยออกไปเพื่อความสะดวกและง่ายขึ้น ประชาชนจะได้มีกำลังใจในการศึกษา เพราะว่าเมื่อเรียนง่ายขึ้น ก็ทำให้สอบแล้วได้ประกาศนียบัตรง่ายขึ้นไปด้วย จึงมีการซอยแยกออกเป็นธรรมศึกษาในระดับชั้นประถม แบ่งเป็นชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก ธรรมศึกษาในระดับมัธยม แบ่งเป็นชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก และธรรมศึกษาในระดับอุดม ซึ่งแบ่งเป็นชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก เช่นกัน

เถรี 16-11-2022 06:39

ทุกสิ่งทุกอย่างพยายามเอื้ออำนวยให้แก่ผู้ที่เข้ามาศึกษา แต่ว่าทุกปีก็จะต้องมีปัญหาเข้ามาให้ปวดหัวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะก่อนหน้าที่ทางวัดท่าขนุนจะเข้ามารับผิดชอบนั้น แต่ละปีล้วนแล้วแต่สร้างความปวดหัวให้กับทางด้านเจ้าคณะปกครองมาก เพราะว่าโรงเรียนทองผาภูมิวิทยามีนักเรียนเป็นจำนวนมาก ปัญหาต่าง ๆ จึงมากไปด้วย

จนกระทั่งกระผม/อาตมภาพมาเป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าขนุนเมื่อปี ๒๕๔๖ สามารถดำเนินการทุกอย่างได้เรียบร้อย เป็นที่พอใจของผู้บังคับบัญชา จึงได้เพิ่มโรงเรียนมาให้ กลายเป็นว่าโรงเรียนในความรับผิดชอบของวัดท่าขนุนนั้น เพิ่มขึ้นเป็น ๕ โรงเรียน ตอนนี้ก็ยังดีที่ว่ามีการลดลง ๑ โรงเรียน ก็คือแยกโรงเรียนบ้านเสาหงษ์ออกไป เป็นสนามสอบของตนเอง ที่เหลือยังต้องมาพึ่งพาอาศัยวัดท่าขนุนอยู่เหมือนเดิม

ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ตั้งแต่อันดับแรกเลยก็คือ สมัครเรียนแล้วไม่มาสอบ กระผม/อาตมภาพนั้นเคยปวดหัวที่สุดในปีแรกที่เรามีการเซ็น MOU ระหว่างกรมการศาสนา กับเขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ ให้ส่งนักเรียนเข้ามาสอบ ปรากฏว่าอยู่ในลักษณะของภาษิตโบราณที่ว่า "ขี้ใหม่หมาหอม" จึงทำให้มีหน่วยงานหนึ่ง ส่งนักเรียนเข้ามาสอบ ๑,๐๘๐ คน แต่ว่ามาสอบจริง ๑ คน อีก ๑,๐๗๙ คนไม่มาสอบ..! ที่ว่ามีปัญหาใหญ่ก็เพราะว่าเราจะต้องลงในใบรับตอบว่ามาสอบจริงกี่คน ขาดสอบกี่คน ผู้ที่ขาดสอบมีหมายเลขอะไรบ้าง ก็ต้องเขียนมือหงิกไป ๑,๐๗๙ หมายเลข..!

เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะระเบียบกำหนดเอาไว้ว่า ให้แจ้งว่าหมายเลขใดขาดสอบบ้าง ไม่ได้ให้เราพิจารณาแจ้งว่ามาสอบแค่ ๑ คน หมายเลขนี้ ที่เหลือเราจะได้ไม่ต้องลง แต่เนื่องจากว่าระเบียบนั้นเถรตรงจนเกินไป นอกจากจะต้องเขียนแจ้งว่าหมายเลขใดไม่มาสอบแล้ว ยังต้องขีดตัดหมายเลขที่ไม่ได้สอบ พร้อมกับเขียนกำกับในช่องหมายเหตุว่า "ขาดสอบ" อีกด้วย แค่หน่วยงานเดียวก็สร้างความปวดหัวให้ข้ามวันข้ามคืนแล้ว..!

ประการต่อไปก็คือ ครูที่มาช่วยคุมสอบ ด้วยความเมตตา พอเด็กขาดสอบ คุณครูก็เขียนลงไปในช่องที่ต้องเซ็นส่งว่า "ขาดสอบ" "ขาดสอบ" "ขาดสอบ" แต่ว่าพระที่คุมห้องสอบนั้น กวาดตามองไปไม่เห็นช่องว่าง ก็ถือว่ามาสอบ ในเมื่อแจ้งไปก็กลายเป็นว่าแจ้งยอดผู้มาสอบและผู้ขาดสอบผิด ต้องมาแก้ไขกันทีหลัง ลำบากกันมาก

ประการต่อไปก็คือ เด็กส่งข้อสอบแต่ไม่เซ็นชื่อ หรือว่าเซ็นชื่อแต่ไม่ส่งข้อสอบ กว่าที่จะค้นเจอว่าปัญหาอยู่ตรงไหนก็แทบจะหัวหงอกไปตาม ๆ กัน..!

เถรี 16-11-2022 06:43

อีกประเภทหนึ่งก็คือ มาสอบเช้าแล้วไม่สอบบ่าย มาสอบบ่ายโดยไม่สอบเช้า สร้างความปวดหัวให้กับประธานสนามสอบและพระเณรที่คุมสอบเป็นอย่างยิ่ง เรื่องพวกนี้มีปรากฏอยู่ทุกปี และทุกครั้งที่คุมสอบ

อีกปัญหาหนึ่งก็คือว่า บรรดาเด็ก ๆ นั้นไม่เข้าใจว่าเหตุใดตนเองจึงต้องมาสอบใหม่ เพราะว่าทางแม่กองธรรมสนามหลวงนั้น เมื่อปรับหลักสูตรใหม่เป็นระดับประถม มัธยมและอุดมศึกษา ตรี โท เอกแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ไม่ได้ดูว่าเด็กคนนี้เคยสอบได้นักธรรมชั้นเอกตั้งแต่เรียนประถม เมื่อเห็นมีชื่ออยู่ในระดับมัธยม ก็ติ๊กชื่อว่าเป็นผู้ขอเข้าสอบเสียทั้งหมด จึงทำให้เด็กที่เคยสอบมาแล้ว และสอบในลักษณะที่ยากลำบากกว่ามาก เพราะว่ายังอยู่ในลักษณะที่ไม่ได้แยกย่อยให้ง่ายลง เมื่อตัวเองสอบของยากได้แล้ว อยู่ ๆ มีชื่อมาให้สอบของง่ายก็เลยไม่ไปสอบ

ปีแรกที่เปลี่ยนหลักสูตร จึงเป็นปีที่ขาดสอบกันมากมายมหาศาล จนกระทั่งทางแม่กองธรรมสนามหลวงต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายใหม่ ให้ทางเจ้าของพื้นที่ติ๊กชื่อเอง ว่าผู้ใดจะส่งสอบในระดับใดบ้าง จึงสามารถทำให้การขาดสอบนั้นลดน้อยลงไปมาก

ถึงแม้ว่าปัญหาพวกนี้จะได้รับการแก้ไขไปเรื่อย แต่ว่าก็ยังมีปัญหาอื่นอีก อย่างเช่นวันนี้ รหัสสนามสอบที่ให้มา เมื่อถึงเวลาเข้ารหัสไปแล้ว ไม่สามารถที่จะเข้าไปโหลดข้อสอบได้ เพราะว่าทางเว็บไซต์แจ้งว่ารหัสผิดพลาด เมื่อสอบถามไปทางต้นสังกัด เขาแจ้งว่ามอบรหัสชุดใหม่มาให้แล้ว พร้อมกับกระดาษรับใบตอบ

เมื่อค้นหาจนกระทั่งทั่วแล้ว มีแต่กระดาษรับใบตอบ ไม่มีรหัส ก็ต้องโทรศัพท์ตรงถึงทางกองธรรมสนามหลวงเพื่อขอรหัสกลางมาเปิด ก็โดนสอบสวนกันหูตูบทางโทรศัพท์ ว่าหมายเลขสนามคืออะไร ? มีผู้เข้าสอบระดับชั้นตรีกี่คน ? ชั้นโทกี่คน ? ชั้นเอกกี่คน ? เหตุใดจึงมีปัญหาไม่สามารถที่จะเปิดข้อสอบได้ กว่าที่จะได้รับรหัสกลางมาก็เสียเวลาไปครึ่งค่อนชั่วโมง

ปัญหาอีกอย่างหนึ่งก็คือว่า เด็กนักเรียนบางคนนั้นเป็นลูกต่างด้าว เขียนหนังสือไทยไม่เก่ง แล้วการเรียงความแก้กระทู้ธรรมนั้น ถ้าเป็นของธรรมศึกษาชั้นโทชั้นเอก ก็ต้องเขียนกันหลายหน้ากระดาษ จึงทำให้เขียนได้ช้ามาก อย่างวันนี้ทางอาจารย์ผู้คุมสอบ ก็คือท่านภีม (พระกวีวัธน์ สทฺธาธิโก) เก็บข้อสอบเสร็จในเวลาเกือบบ่ายโมง แปลว่าพระอาจารย์ผู้คุมสอบอดเพลไปเรียบร้อยแล้ว..!

เถรี 16-11-2022 06:45

ยังดีที่กระผม/อาตมภาพเป็นประธานคุมสนามสอบเอง เห็นปัญหานี้มาหลายปีแล้ว จึงยังไม่ปิดซองรับคำตอบ แม้จะเขียนรายงานไปว่าปิดในเวลานั้น ปิดในเวลานี้ แต่ก็ยังรอข้อสอบฉบับที่นักเรียนต่างด้าวเขียนช้านี้อยู่ แล้วค่อยมาปิดซองทีหลัง เท่ากับว่ารายงานเท็จ แต่รักษาประโยชน์ให้กับเด็กผู้เข้าสอบ เนื่องจากว่าแม้จะเป็นต่างด้าว แต่ก็มีความเพียรพยายามที่จะมาเข้าสอบ จึงขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของประธานสนามสอบว่า จะพิจารณาไปในลักษณะใดบ้าง

ที่น่าสงสารก็คือพี่เลี้ยงที่มาคุมสอบอย่างพระวัดท่าขนุน ถ้าหากว่าห้องใดเจอเด็กต่างด้าวในลักษณะแบบนี้ ก็แปลว่าอดเพลไปก็แล้วกัน ต้องขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านทั้งหลายแม้จะเจอเหตุการณ์แบบนี้ทุกปี แต่ก็ไม่ได้ท้อถอย พร้อมที่จะสู้ พร้อมที่จะอด เพื่อให้เด็กของเราอย่างน้อยมีประกาศนียบัตรว่า สามารถผ่านหลักสูตรของพระพุทธศาสนาในระดับใดระดับหนึ่งมาแล้ว

เนื่องเพราะว่าบางมหาวิทยาลัยนั้น มีคะแนนทางด้านศีลธรรมเป็นข้อประกอบในการรับเด็กเข้าเรียนด้วย จึงทำให้เด็กที่มีประกาศนียบัตรธรรมศึกษานั้น มีโอกาสที่จะได้รับพิจารณาเข้าเรียนมากกว่าเด็กที่ไม่มี

ทางด้านพระภิกษุสามเณรที่คุมสอบ ถ้าหากว่ารับนโยบายเคร่งครัดมาจากประธานสนาม ไม่สามารถที่จะช่วยได้ ก็จะตัดโอกาสของเด็กที่เขียนหนังสือไม่เก่งไป แต่อย่างของวัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพเป็นประธานคุมสนามสอบเอง "ขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว" จึงทำให้ได้โอกาสในการศึกษา แต่ว่าพระเณรของเราก็ต้องอดเพลกันในลักษณะที่ได้กล่าวมา ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ทุ่มเทกำลังใจให้กับการศึกษาทางพระพุทธศาสนา ยอมเอาตัวเข้ามาแลก อยู่ในลักษณะที่ว่าอดก็ไม่เป็นไร ขอให้ลูกศิษย์ได้ทำข้อสอบส่งให้ทันก็แล้วกัน

วันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:46


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว