![]() |
พอ
หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า "สมัยก่อนหลวงปู่เย็น ท่านยกวัดกลางชูศรีเจริญสุขให้หลวงปู่บุดดา ตัวท่านเองก็หลบไปอยู่สำนักสงฆ์เล็ก ๆ หลวงปู่เย็นท่านสร้างอักขระเป็นรูปตัว พ. เป็นปริศนาธรรมให้ลูกศิษย์ได้รู้ว่าควรจะพอ
ตัว พ. มันเขียนไม่ยาก แต่มันทำยาก พอมี พอได้ พอเป็น พอเย็น พออยู่ พอไหว พอพ้น พอตน พอใจ พอใหญ่ พอยอ พอแล้ว นึกถึงทิดกอล์ฟ ตอนที่เขายังอยู่ เขาบอกว่า ดูเหมือนอาจารย์สร้างภาพเลย เราก็ถามว่าสร้างภาพอย่างไร เขาก็บอกว่า อะไร ๆ ก็ไม่เอา อะไร ๆ ก็พอ เราก็บอกว่าถ้าหากว่าพระทั่วทั้งสังฆมณฑลช่วยกันสร้างภาพแบบนี้ เอ็งว่าศาสนาจะเจริญไหม ส่วนใหญ่ที่พบมามากต่อมากด้วยกันเป็นที่น่าเสียดาย บวชมาด้วยความหวังดีปรารถนาดี อยากช่วยงานศาสนา อยากปฏิบัติเพื่อมรรคผลตัวเอง แต่พอเจอลาภ ยศ สรรเสริญเข้า เจตนาเดิม อุดมการณ์เดิมก็แปรเปลี่ยน จากที่คิดจะทำเพื่อส่วนรวมก็กลายเป็นทำเพื่อตัวเอง" |
ท่านกล่าวต่ออีกว่า "ในเรื่องบริขารของพระสมัยนี้มันหาได้ง่ายไม่เหมือนสมัยโบราณก็จริง แต่ว่าพระเราควรจะสันโดษ คือ ยินดีในของที่ตัวเองมีอยู่ ถ้าไม่ใช่ว่าหมดสภาพจริง ๆ ก็ใช้ของเก่า หาง่ายไม่ได้แปลว่าให้เราฟุ่มเฟือย"
|
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ กล่าวว่า "ความสุขกายสบายจิตอยู่ที่ความพอเท่านั้น สิ่งใดที่เราพอแล้ว สิ่งนั้นไม่นำความทุกข์เดือดร้อนใจมาให้เลย ถ้าเราไม่พอใจในสิ่งใด ชื่อว่าเรายังจนอยู่ในสิ่งนั้น"
|
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 14:34 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.