กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=18)
-   -   หลวงปู่โลกอุดร (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1911)

โอรส 15-06-2010 01:47

หลวงปู่โลกอุดร
 
ถาม : มีอีกไหมครับ ที่ตั้งแต่สมัยพุทธกาลถึงปัจจุบันนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่ ?
ตอบ : ยังไม่ได้ยินอีก แต่อย่างหลวงปู่โลกอุดร หลังพุทธกาลมาประมาณ ๓๐๐ ปีแต่ว่ายังอยู่ ก็ถือว่าหลังมานิดหนึ่ง

มีคนไปถามท่านว่า "หลวงปู่ครับอายุเท่าไรแล้วครับ ?" ท่านบอกว่า "จำไม่ได้แล้วว่ะ รู้แต่ว่าตอนเขาสร้างพระปรางค์ ๓ ยอดที่ลพบุรีไป ข้าไปยืนดูเขาทำอยู่"

พระปรางค์ ๓ ยอดนั่นไม่หนี ๑,๔๐๐ ปี ...(หัวเราะ) ...ไปยืนดูเขาทำ ...(หัวเราะ)...

ถาม : แล้วอย่างนี้ไม่เหมือนกับฝืนกฎแห่งกรรมหรือครับ ?
ตอบ : ก็จะเรียกว่าฝืนก็ใช่ แต่ว่าท่านมีความสามารถที่จะฝืนได้

เพราะพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "บุคคลผู้ชำนาญในอิทธิบาท ๔ จะอธิษฐานให้ร่างกายทรงอยู่ถึงกัปหนึ่งก็ได้"

คราวนี้งานของท่านยังมีอยู่ ท่านก็จำเป็นที่จะต้องอยู่ เพราะถ้าตายก็ไปพระนิพพานเลย ไม่มีคนทำต่อ เพราะว่าท่านปรารถนาพุทธภูมิ ตั้งใจว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า พอมาเจอธรรมะของพระพุทธเจ้าเข้า ท่านเห็นว่าวิธีนี้ง่ายกว่า ท่านก็ตัดสินใจหันมาปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

ไม่นานก็เป็นพระอรหันต์เลย เพราะกำลังท่านสูงอยู่แล้ว บริวารมัวแต่ใจเย็นอยู่จึงตามไม่ทัน คิดว่าอย่างไรท่านก็ต้องรอแน่ ที่ไหนได้..ท่านไม่รอแล้ว โดดไปเลย ท่านก็เลยต้องอยู่เพื่อรอเก็บบริวารของตัวเอง

ถาม : แล้วอย่างนี้ถ้าเราไม่เคยผูกพันกับท่าน โอกาสจะเจอท่านก็ไม่มี ?
ตอบ : โอกาสเจอยากเต็มที แต่ว่าท่านบอกวิธีติดต่อให้นะ ท่านบอกว่า "ให้จัดอาสนะ ๕ ที่ปูด้วยผ้าขาว แล้วก็จุดธูปเทียน ตั้งใจบูชานึกถึงท่าน" ว่าคาถาว่า “โลกะอุตตะโร มหาเถโร อะหังวันทามิ ตัง สะทา” ภาวนาไปเรื่อย ๆ ท่านบอกว่า ถ้าหากว่าท่านว่างก็จะมาเอง ถ้าไม่ว่างจะมาในฝัน

ถาม : มาเนื้อ ๆ เลยหรือครับ ?
ตอบ : เออ..มาเนื้อ ๆ นี่แหละ แล้วระวังนะองค์นั้น บางทีมาขอข้าวเย็นกินหน้าตาเฉยเลย ถ้าขอก็ถวายไปเถอะ ...(หัวเราะ)...

บางคนก็ตกใจ อะไร..พระขอข้าวเย็นฉัน..เอาข้าวมา จะให้ใส่ที่ไหน ? ท่านควักกาละมังใบเบ้อเริ่มออกมา เอ้า..กาละมังก็กาละมังละวะ ก็ใส่ลงไปทั้งข้าวทั้งกับ ท่านก็คลุกของท่านไปเรื่อย เสร็จแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาฉันทั้งตอนเย็นนั่นแหละ ฟาดลงไปทีครึ่งค่อนกาละมัง

ถาม : ใช้เวลาอเมริกาหรือเปล่าครับ ?
ตอบ : คนเห็นก็แปลกใจ แต่ตอนท่านกลับแล้วซิ..ข้าวก็ยังเหลือเต็มกาละมังเท่าเดิม..(หัวเราะ)..ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านฉันอีท่าไหน...ไม่มีพร่องเลย

ถาม : แต่เห็นว่าฉัน ?
ตอบ : เห็นว่าฉัน ตอนฉันก็หมดไปเป็นครึ่ง ๆ เลย

มีต่อ...

โอรส 15-06-2010 21:33

ถาม : เวลามา ท่านมาองค์เดียว หรือมาทั้ง ๕ องค์เลยครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ท่านจะมาองค์เดียว เพราะว่างานของท่านเยอะ ชุดของท่านมี ๕ องค์

ถาม : ยังมีงานอีกหรือ ?
ตอบ : งานท่วมหัวเลย

ถาม : งานอะไรครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่ก็งานเพื่อพระศาสนา ทำเพื่อกำลังใจของคนหมู่มาก ทำเพื่อส่วนรวม

ถาม : จริง ๆ ถ้าไม่รู้ก็มองไม่เห็น และก็ไม่รู้เรื่องเลยซิครับ ?
ตอบ : หมดเรื่องไปเลย ประเภทที่เดินมาจะเหยียบอยู่แล้วยังไม่รู้ อย่างคุณสุดเฉลียว..ใช่ไหม ?

ท่านเดินมาบิณฑบาต คุณสุดเฉลียวก็อาย เพราะว่ามีแต่กับข้าวไม่ดี เลยไปบอกท่านบอกว่า "ดิฉันเป็นคริสต์เจ้าค่ะ"

ท่านก็เลยเดินไป พอท่านเดินไปจนกระทั่งลับไปแล้วเพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าผิดปกติ..ตรงไหนรู้ไหม ? ผิดปกติตรงที่ว่าท่านสูง หัวนี่ค้ำเพดานเลย..!

แต่ตอนนั้นไม่ได้สังเกต ไม่ทันนึก คงจะเป็นเรื่องบุญมีแต่กรรมบัง พอนึกได้วิ่งตามออกไป ปรากฏว่าไม่เจอแล้ว ตัวเองจะอยู่ห้องแถวห้องที่ ๓ ทางซ้ายมือมีอยู่ ๒ ห้อง ขวามือมีอยู่ ๓-๔ ห้อง

ถามทางด้านไหนก็ไม่มีใครเห็นพระลักษณะอย่างนั้นเดินออกมาสักองค์หนึ่ง ไม่ทันกินแล้ว..บุญมีแต่กรรมบังไปหน่อย บอกไปได้ว่าดิฉันเป็นคริสต์เจ้าค่ะ..!

ถาม : อ้าว..เขาเองก็ตั้งใจดีนี่นะ คือกลัวกับข้าวไม่ดี ก็เลยไม่ถวาย ?
ตอบ : ถ้าหากว่าไม่มีจริง ๆ ที่กินแล้วใช้แล้วก็ได้ เขาเรียกว่า “ทาสทาน” ถ้าเสมอกับตัวเองกินตัวเองใช้ก็เป็น “สหายทาน” ถ้าดีกว่าที่ตัวเองกินตัวเองใช้ถึงจะเป็น “สามีทาน” แต่ส่วนใหญ่แล้วเขาจะทำแต่ที่ดี ๆ ก็เลยพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย

ถาม :
ถ้าได้ทำก็สุดยอดเลยครับ ?
ตอบ : พระอย่างนั้นมาไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยนะ

ถาม : งานหลวงปู่เทพโลกอุดรมีเฉพาะบนโลกมนุษย์หรือครับ ?
ตอบ : ก็บริวารท่านนั่นแหละ ถ้าไปเกิดดาวอื่นท่านก็ต้องตามไปเก็บเหมือนกัน แต่ระดับของท่านเดินทีเดียวก็ถึงแล้ว ไม่ต้องลำบากแบบเรา

ถาม : ท่านอยู่ที่ไหนครับ ?
ตอบ : อยู่ที่ไหน ปัจจุบันนี้สถานที่ ๆ ท่านอยู่ประจำเป็นถ้ำใหญ่อยู่ที่เนปาล อยู่ใต้ภูเขาเย็นมากเลย อยากจะเรียกว่าเย็นชนิดติดลบ

แต่ว่าเวลาท่านต้องการให้คนอื่นพบท่าน บางทีท่านก็ไปใกล้ ๆ แล้วก็โผล่ไปให้เห็น หรือไม่ก็หลายคนได้เห็นท่าน ได้เจอท่านในถ้ำแห่งหนึ่ง ที่เรียกว่า “ถ้ำวัวแดง”

ท่านอาจจะดึงเราเข้าไปตรงจุดนั้นก็ได้ เพราะว่าถ้ำวัวแดงจริง ๆ คนไปแล้วไม่เจออะไรเลย

และท่านไม่ได้อยู่องค์เดียวนะ อยู่ด้วยกันหลายองค์ด้วย ถ้ำนั้นน่าอยู่ เป็นธรรมชาติเย็นดีมาก แต่เย็นเกินไปสำหรับพวกเรา


สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ เดือนสิงหาคม ๒๕๔๔


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 03:43


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว