กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   พระครูวิลาศกาญจนธรรม (หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ) (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=18)
-   -   รักษาอารมณ์ตั้งแต่ต้นยันปลาย (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2148)

เถรี 23-09-2010 09:56

รักษาอารมณ์ตั้งแต่ต้นยันปลาย
 
สิ่งที่หลวงปู่หลวงพ่อท่านสอนพวกเรามานั้น..เหลือเฟือเกินพอแล้ว เหลืออยู่ตรงที่ว่าเราต้องทุ่มเททำให้ได้เท่านั้น เหลือแค่นั้นจริง ๆ แต่ก็อย่างว่า ภารกิจต่าง ๆ ของฆราวาสมีมากมาย ไม่เหมือนพระ พระมีเวลามากกว่า

แต่ว่าพอขึ้นมาถึงระดับนี้ เวลาก็ไม่มากแล้ว ถูกญาติโยมเขาแย่งเวลาไปหมด จึงต้องอาศัยว่า ต้องปฏิบัติให้ได้ทุกอิริยาบถ ถ้ารักษากำลังใจให้ทรงตัวเท่ากันไม่ได้ ถึงเวลาจะสงเคราะห์โยมได้ไม่เท่ากัน จะไปเลือกที่รักมักที่ชัง

เวลาพระท่านช่วยงานอยู่ใกล้ ๆ อย่างท่านมหาโรจน์หรือท่านกวาง ต้องคอยเตือนท่านอยู่เรื่อย ๆ เพราะว่าพอไปสักพักหนึ่ง กำลังใจท่านจะตก เจอคนที่การแสดงออกไม่เท่ากัน เจอคนที่ศรัทธาไม่เท่ากัน ความเร็วในการทำบุญไม่เท่ากัน ก็จะเริ่มเลือกที่รักมักที่ชัง โทสะจะเกิด ก็ต้องคอยตักเตือนท่าน ให้รู้ตัวแล้วรีบระงับอารมณ์

เรื่องพวกนี้จะต้องรู้ตัวเอง จะไปรอให้คนอื่นเตือนไม่ได้ มัวแต่รอคนอื่นเตือน แล้วจะมีใครสักกี่คนที่เมตตาเตือนให้ ถึงแม้ว่าเมตตาท่านจะเหลือเฟือ แต่ท่านก็ไม่รู้ว่าเตือนไปแล้วเราจะฟังหรือเปล่า ? หรือท่านจะโดนอะไรคืนมา ? ท่านก็เงียบดีกว่า


โบราณเขาบอกว่า จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด.....ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน
...................ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน........อย่าแชเชือนเร่งเตือนตนให้พ้นภัย


สมัยที่รับสังฆทานอยู่ใกล้ ๆ หลวงพ่อวัดท่าซุง ยิ่งเวลางานใหญ่ที่วัด คนกำลังใจไม่เท่ากัน แต่กำลังใจของอาตมายังไม่ถึงระดับอัปมัญญา ที่จะสงเคราะห์ทุกคนได้เสมอกัน อาตมาต้องการให้งานหลวงพ่อเสร็จและเรียบร้อย โดยเฉพาะถ้าช้าเท่าไรหลวงพ่อท่านก็ยิ่งต้องนั่งนาน ก็จะเร่งให้คนทำบุญเร็ว ๆ

คราวนี้ไปเจอพวกที่ไม่รู้ภาษา ถึงเวลาเดินมาข้างหน้าแล้วค่อยควักเงินมานับ ทำให้คนอื่นเขาช้ากันไปหมด ก็ต้องเสียงดังใส่ ดังครั้งแรก ๆ ก็ไม่รู้ตัว พอหลาย ๆ ครั้ง "เอ๊ะ..เสียงเราดังเกินไปแล้วนี่" ในเมื่อเสียงดังเกินไป ก็แสดงว่าความเครียดหรือโทสะเกิดแล้ว แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ตัว

เถรี 23-09-2010 10:05

พอรู้ตัวก็ต้องดึงเพื่อนมาทำหน้าที่แทน อาตมาเองก็ไปนั่งทบทวนในห้องน้ำ คนที่รู้ตัวเร็วจะได้เปรียบ ในเมื่อรู้จุดบกพร่องของตนเอง ก็จะต้องแก้ไข วิธีดีที่สุด ก็คือ ทำสมาธิให้กำลังใจทรงตัว แล้วค่อยออกมาสู้กันใหม่

รักษาอารมณ์ไปได้อีกประมาณครึ่งวัน พอเย็น ๆ ก็พังอีก เสียงเริ่มดังอีก จึงจำเป็นที่จะต้องหาวิธีที่จะรักษาอารมณ์ให้ต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นยันปลายให้ได้ พอรักษาอารมณ์ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นยันปลายได้ กิเลสก็จะกินเราไม่ได้

แต่ยังเอาไปโกรธในฝันอีก คิดดูก็แล้วกัน..ลืมตาตื่นอยู่กิเลสเล่นงานเราไม่ได้ ก็ไปเล่นงานตอนที่เราหลับ ก็ต้องพยายามดิ้นรน ทำอย่างไรที่หลับกับตื่นความรู้สึกจะเท่ากัน เพื่อที่กิเลสจะเข้ามาไม่ได้

หลับอยู่ก็เหมือนตื่น จะได้ระวังกิเลสเหล่านี้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นก็เหมือนกับเราพายเรือทวนน้ำอยู่วันหนึ่งเต็ม ๆ พอเรารามือตอนหลับก็ไหลตามน้ำไป เพราะกิเลสไปกินเราตอนหลับ เราก็จะไม่ได้งานอะไร กลายเป็นคนขยันทำงานทุกวัน แต่งานไม่มีเพิ่ม

ฉะนั้น..ถ้ารู้ตัวแล้วแก้ไขจุดบกพร่องของตัวเองได้ไวเท่าไรก็ตาม จะมีอะไรให้เห็นหน้าเห็นหลัง เห็นผลการปฏิบัติชัดเจนขึ้น ตราบใดที่เรายังรักษากำลังใจให้เสมอต้นยันปลายไม่ได้ หรือว่าไม่สามารถจะทรงตัวต่อเนื่องได้นาน ๆ ก็ยังเอาตัวไม่รอด เพราะยังไม่พอกิน

พอกินก็แต่ตอนตื่น หลับเมื่อไรกิเลสก็เอาไปกินหมด บางคนตอนกลางวันเรียบร้อยเชียว ตกกลางคืนฝันว่าฆ่าเขาเป็นกองทัพเลย..! กิเลสที่เล่นตอนกลางวันไม่ได้ ก็ไปเล่นตอนกลางคืน กิเลสเล่นงานเราทั้งหลับทั้งตื่น ฉะนั้น..จะต้องหลับและตื่นแล้วรู้เท่ากัน


พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
เทศน์ช่วงบ่าย ณ บ้านอนุสาวรีย์
วันเสาร์ที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๓


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 05:20


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว