เส้นทางพระโพธิสัตว์ ตอนที่ ๗
1 Attachment(s)
เดือนเสี้ยวแรม ๑๑ ค่ำ ลอยอยู่ขอบฟ้าตะวันออก พวกเราทำวัตรเช้ากันเรียบร้อย เก็บข้าวเก็บของเตรียมเดินทาง โชเฟอร์มือหนึ่งมาตรงเวลาเป๊ะ พาคณะของเราตรงไปมะละแหม่ง รถจักรยานมากมายพลุกพล่าน รถยนต์แต่ละคันเปิดไฟสูงส่องหน้าจนมองทางไม่เห็น..!
มารับเรือโทกันยุนท์อาเขยทิดจิตร ผู้หมวดแกไม่ได้รับข่าวจากทิดจิตร คิดว่าไม่ได้ไปวันนี้ ยังนอนสบายอยู่ก็ถูกเราควักตัวจากที่นอนมาเลย รีบร้อนเกินจนลืมกระเป๋าเงิน ไปถึงท่าแพค่อยนึกได้... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1308560236 ถ่ายรูปบนแพขนานยนต์ร่วมกับทิดจิตรและตันอู (พลขับสำรอง) โซยุนท์ซิ่งกลับไปเอากระเป๋าเงิน เพิ่งคล้อยหลังอาสาวของทิดจิตรก็โผล่มาพร้อมกระเป๋าเงิน ทำเอาวุ่นวายกันพักใหญ่ รถเริ่มลงแพจนถึงสิงห์รถบรรทุกแล้ว ลุงขาวถึงตะบึงกลับมา... ผู้หมวดเขาเส้นใหญ่ใช้ได้ พาพวกเราลัดคิวขึ้นแพจนได้ แถมยังคว้าปฏิทินทหารเรือ รูปสาวพม่าสวยบึกบึนมาแจกพวกเราซะอีก รถของเราเป็นคันรองสุดท้าย สิงห์รถบรรทุกตามมาปิดท้ายปุ๊บ แพขนานยนต์ก็ออกปั๊บ ลมทะเลโชยมาเย็นสดชื่น... |
3 Attachment(s)
ยังเช้าเกินไป นกนางนวลยังไม่ออกหากิน แพวิ่งเฉียดเกาะอองซีจุน อ้อมแหลมไปขึ้นฝั่งเมาะตะมะ ตะวันกำลังโผล่พ้นขอบฟ้าเมื่อแพเข้าเทียบท่า โซยุนท์พาพวกเราเลาะข้างสถานีรถไฟ มาฉันข้าวผัดกันที่ร้านของคนรู้จักกัน...
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1308747765 พระเจดีย์ชุยซายาน (จาริกสุวรรณภูมิ) เมืองตะโทง (สุธรรมวดี) จ่ายค่าอาหาร ๖๗๐ จั๊ต แล้วออกเดินทางกันต่อ นักเรียนกำลังไปโรงเรียน สีขาวสีเขียวเต็มถนนไปหมด หมู่เกวียนแล่นกันฝุ่นตลบ เฮ้ย..! โครม..! เรียบร้อย..เหลือแค่เมตรกว่ารถจะถึงตัว เจ้าหมาใจกล้าดันเผ่นตัดหน้า อโหสิกรรมเถิด..! http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1308747765 ตรงที่เป็นเสาศิลาแลงนั่นแหละ เป็นจุดที่พม่าเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเสด็จมายังสุวรรณภูมิ ทำบุญทุกด่านที่พบ จนมาถึงพระเจดีย์ชุยซายาน (จาริกสุวรรณภูมิ) ของเมืองตะโทง (สะเทิม, สุธรรมวดี) ซึ่งเป็นเมืองที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาประดิษฐานพระพุทธศาสนาในแคว้นสุวรรณภูมิ... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1308747765 สองสาวชาวพม่าเลี้ยงนกพิราบ กราบพระเจดีย์แล้ว สาวพม่าขายดอกไม้พาไปกราบจุดที่พระพุทธเจ้าประทับ เอาแจกันดอกไม้ที่เธอขายให้ ถวายเป็นพุทธบูชาด้วยราคา ๒๐ จั๊ต จากนั้นออกมาดูสาวโปรยทานให้นกพิราบ เลยได้สาวพม่าเป็นนางแบบโปสการ์ดสองนาง... |
1 Attachment(s)
ออกจากพระเจดีย์ชุยซายานไปนิดหน่อย เลี้ยวขวาไปตามทางฝุ่นหนาเตอะ ข้างทางมีต้นบุนนาคมหึมาเป็นแถวยาวพาเราไปถึงพระเจดีย์อะลานตะยา มีรถทัวร์พาคนมาไหว้พระเจดีย์ก่อนคณะของเราอีก พวกเราเข้าไปกราบไหว้ทำบุญกันเช่นเคย...
หลวงปู่วัดอะลานตะยาเพิ่งมรณภาพได้ไม่นาน สมัยก่อนท่านดังคับประเทศเหมือนกัน แต่แปลกตรงที่ก่อนนั้นเจดีย์ทาสีขาว พอท่านสิ้นเขากลับหุ้มทองซะสวยเชียว ตอนนี้ส่วนยอดกำลังจะเสร็จ อีกไม่นานคงงามกว่านี้หลายเท่า... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1308748070 พระเจดีย์อะลานตะยา (ร้อยวา) มีเส้นรอบวงฐาน ๑๐๐ วา ออกมาหาซื้อของกัน อาตมาต่อโหดตามแบบฉบับของตน กล้วยหักมุกลูกละ ๑๕ จั๊ต หวีละ ๑๔ ลูก อาตมาให้ ๑๕๐ จั๊ต ประคำมือพวงละ ๖๐ จั๊ต อาตมาให้ ๔ พวง ๑๕๐ จั๊ต..! ได้ของมาชนิดที่คนอื่นมึนกันเป็นแถว คนขายแถวนี้พูดภาษาไทยได้ด้วยแน่ะ... ขึ้นรถได้จัดการเอากล้วยมาแบ่งสรรปันส่วนกัน ทิดจิตรส่งมันแกวมาให้อีกพวงใหญ่ ฉันไปควักย่ามทำบุญไป เพลินดีแท้ ๆ... |
2 Attachment(s)
ด้วยความเมตตาของหลวงปู่ปานโดยแท้ ด่านเก็บค่าผ่านทางกี่ด่านผ่านฟรีทั้งหมด แต่ขณะเดียวกัน ด่านบุญทุกด่านเราก็ไม่ปล่อยให้ผ่านมือเช่นกัน ผ่านทางแยกเข้าพระธาตุอินทร์แขวนไปไม่นาน ยอดโชเฟอร์ที่เคี้ยวหมากหยับ ๆ ก็เลี้ยวซ้าย...
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1309116048 หลวงพ่อลอยน้ำไจ๊ปอลอ เมืองไจ๊โกนี้มีหลวงพ่อลอยน้ำ ๑ ใน ๔ องค์ของพม่า หลวงพ่อไจ๊ปอลอนี้พิเศษตรงที่ท่านมีไฝเม็ดหนึ่งเป็นจุดเด่น ไม่ว่าใครจะพยายามปิดทองทับอย่างไร ไฝก็จะโผล่มาเสมอ แผ่นหินกลมที่เป็นแท่นรององค์ท่านครั้งลอยน้ำมาก็ตั้งแสดงไว้ด้วย... คนอื่นแค่นั่งหลับนก แต่ท่านป๊อปหลับอย่างเป็นล่ำเป็นสัน นอนเหยียดยาวอยู่ในกระบะท้าย ชนิดไม่เกรงใจเพื่อนฝูงเลย อาตมาต้องปลุกขึ้นมากราบพระจึงจะยอมตื่น... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1309116048 หลวงพ่อพระมหามุนีจำลอง กราบทำบุญแล้วเดินมากราบหลวงพ่อพระมหามุนีจำลองที่วัดติดกัน เมื่อปีก่อนเขาลือว่า มีภาพพระปรากฏขึ้นที่องค์ท่านหลายแห่ง จนหนังสือพิมพ์ลงข่าวไปทั่วประเทศ คณะของเรามาถึงตอนไฟฟ้าดับ ต้องกราบกันทั้งมืด ๆ นั่นแหละ... |
1 Attachment(s)
ออกมาเข้าห้องน้ำกัน อาตมาเข้าเสร็จท่านนาวินที่ต่อคิวบอกว่า พวกท่านชา ท่านตู่ ไปเข้าทางห้องผู้หญิง ทำเอาโยมผู้หญิงวิ่งอ้าวไม่เหลียวหลัง..! ท่านชาบ่นอ่อย ๆ ว่า หนังสือพม่าสักตัวก็อ่านไม่ออก แล้วจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเป็นห้องผู้หญิง..!
โซยุนท์พาพวกเราหลบสะพานที่กำลังสร้าง อ้อมไปหลังเมืองไจ๊โท มาจนถึงร้านผิ่นอู (แรกแย้ม) ที่คราวก่อนก็พาอาตมาแวะมาฉันเพลเช่นกัน สั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ ฉันกันให้เต็มที่ จบจากพระแล้วโยมทั้งสี่จัดการรับช่วงต่อ... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1309333799 สั่งได้เต็มที่เลยครับ จะร้านไหนก็อาหารแบบนี้ทั้งนั้น อาตมาล้างหน้าล้างตาเสร็จกลับมาคิดค่าอาหาร ทั้งหมด ๑,๓๕๐ จั๊ต โยมคิดแค่พันสองร้อยถ้วน ท่านป๊อปสั่งยาชูกำลังยี่ห้อชูสองนิ้วมาโด๊ปกัน เจอไปขวดละ ๑๖๐ จั๊ต อาตมาไม่ฉันจึงประหยัดไปได้ขวดหนึ่ง... นอกเมืองไจ๊โทแห้งแล้ง ต้นไม้แคระแกร็นเหมือนกับขึ้นอย่างเสียไม่ได้ ชาวบ้านเอาฟืนบ้าง อิฐบ้าง ไม้หมอนรองรถบ้าง มาวางขายเป็นระยะไป บางรายสานรั้วขัดแตะ ยกมาวางขายทั้งแผง เก้าอี้ไม้ไผ่สานสวยน่าใช้ตัวละ ๓๐๐ จั๊ต... |
1 Attachment(s)
พ้นเขตรัฐมอญ จะข้ามแม่น้ำซิตต็อง (สะโตง) ตำรวจจราจรเป่านกหวีดดังสนั่น ยอดโชเฟอร์ชิดขวาจอดทันที จราจรวิ่งอกตั้งมาบอกให้รีบไป รถทหารกำลังจะมา แล้วคุณเสือ...เป่าทำไมวะ ? รับบัตรผ่านแล้วรีบเผ่นข้ามด่วนจี๋..!
รถแวนสามคันพุ่งมาอย่างกับพายุ เฉียดรถของเราไปชนิดฝุ่นกระจาย รถยี.เอ็ม.ซี.สีเขียวทะมึนทะยานตามมารวดเดียว ๑๔ คัน..! ใครจะข้ามได้ไม่ได้ไม่ขอรับรู้ คณะของเรามุ่งหน้าลูกเดียว มาถึงสะพานขนาดเล็กช่วงถัดมา สะพานถูกน้ำเซาะขาด รถต้องอ้อมหลบลงไปกลางนา... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1309462497 สะพานข้ามแม่น้ำสะโตงช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ (๒๒ มกราคม ๒๔๘๕) เจ้าหน้าที่ยกธงแดงให้รถเราหยุดเพื่อที่อีกฝั่งจะได้ไปก่อน ท่านนาวินเรียกทิดจิตรให้ไปขอซื้อธง...”ธงมันศักดิ์สิทธิ์ โบกแล้วรถหยุดได้ เห็นมั้ย..? รีบไปซื้อมาเร็วๆ..!” เล่นเอาอาตมาหัวเราะจนสำลักฝุ่นแทบตาย..! มันแกวกองพะเนินเทินทึกเมื่อเข้าเมืองพะยาจี พระเจดีย์กำลังปิดทองซ่อมแซมอยู่ มีงานสาธยายธรรมมาราธอนเพื่อหาทุน พวกเราควักย่ามทำบุญกันทุกรูป เด็กหญิง ๒ คนแบกแตงโมผ่าซีกมาเสนอขาย นี่มันบ่ายสองแล้วอีหนูเอ๊ย..! |
2 Attachment(s)
กลับขึ้นรถ ท่านตู่ส่งท็อฟฟี่มาให้ นี่มันของที่มิโชถวายอาตมาเองนี่หว่า "เฮ้ย..เหลือแค่ ๕ เม็ดเองเรอะ..? ถุงหนึ่งตั้ง ๑๐๐ เม็ดนะเว้ย..!" อีแบบนี้มันแดกแล้วไม่ใช่ฉัน..!
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1309766232 พระมหาธาตุชุยมอดอ เมืองหงสาวดี วันที่ไปถึงเขาหุ้มเสื่อปิดทองอยู่ พระมหาธาตุชุยมอดอตั้งเด่นเป็นสง่ากลางเมืองปะโก (หงสาวดี) น่าเสียดายที่เขาหุ้มเสื่อลำแพนเหลือแต่ยอดฉัตรเพื่อทำการซ่อมแซม กราบทำบุญเสร็จก็ออกมาหามุมถ่ายรูปกัน นักท่องเที่ยวต่างชาติมากันมาก... แขกบังคลาเทศสองคนเสนอขายโปสการ์ดสวย ๆ แต่มันรู้มาก ขายยกชุด ๑๐ รูป ๒๐๐ จั๊ต แบ่งเฉพาะรูปที่เราชอบก็ไม่ยอม ต่อรองราคาก็ไม่ลด ยกเว้นซื้อ ๒ ชุด คิด ๒๕๐ จั๊ต ถ้าอย่างนั้นคุณเก็บเอาไว้ดูเองก็แล้วกัน... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1309766454 หลวงพ่อโตวัดชุยตาเลียว ฝีมือท่านอูคันตีตามเคย พระนอนใหญ่วัดชุยตาเลียว เป็นฝีมือของอูคันตีตามเคย ลักษณะอาคารโครงเหล็กแบบนี้ เห็นที่ไหนก็รู้ว่าของท่าน เสร็จจากไหว้พระทำบุญแล้วพวกเราเดินหาซื้อของกัน อาตมาต่อราคาผ้าปักเป็นรูปพระพุทธบาท คนขายพูดไทยได้เหมือนกัน..! |
2 Attachment(s)
จาก ๕,๐๐๐ จั๊ต เหลือ ๓,๕๐๐ จั๊ต เธอไม่ขาย เดินวนรอบที่สาม คนอื่นได้ของไปคนละชิ้นสองชิ้น แต่อาตมาต่อไม่ลง จึงไม่ต้องเสียเงินเหมือนคนอื่นเขา ออกไปหลังวัดชุยตาเลียวเป็นพระเจดีย์สแวดอ เขากำลังสร้างพระนาคปรกสวยมาก...
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1309767079 พระนาคปรกวัดสแวดอ เดินวนกราบพระรอบเจดีย์ เจอหนุ่มใหญ่มาชวนให้ไปดูหมอ เก่งภาษาอังกฤษเสียด้วย อาตมาบอกไปว่าดูเองเป็น เก่งด้วย เขาจะดูหรือไม่ล่ะ..? เล่นเอาพ่อเจ้าประคุณสะดุ้งเหย็ง ร้อง sorry...sorry... แล้วจ้ำไปหาเหยื่อ เอ๊ย...ลูกค้ารายอื่นแทน..! พระเจดีย์ชุยกูเล (ถ้ำทองน้อย) มีอุโมงค์โดยรอบ ตั้งพระพุทธรูป ไว้ ๖๔ องค์ อาตมาให้ผู้หมวดกันยุนท์ไปถามประวัติ ทหารเรือหนุ่มใหญ่หายไปนาน จนคิดว่าไปช่วยเขาสร้างเจดีย์ซะแล้ว... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1309767079 พระเจดีย์ชุยกูเล (ถ้ำทองน้อย) ได้ประวัติมามากกว่าที่ต้องการคือ พระเจดีย์ชุยกูเล พระเจดีย์มหาจี และหลวงพ่อพะยาจีที่ไจ๊มะยอ สร้างโดยพระราชินีฉิ่นซอปุ๊ (เชงสอบู) แห่งหงสาวดี ออกจากชุยกูเลโซยุนท์พาไปนอกเมืองปะโก... |
2 Attachment(s)
เข้าไปถนนเดียวกับโรงแรมปะโกสตาร์ มีหลวงพ่อโตไจ๊ปอนั่งหันพระปฤษฎางค์ชนกัน หันหน้าออกทั้งสี่ทิศ องค์โตจนหามุมถ่ายรูปได้ยาก มีหมอดูหนุ่มหล่อกำลังคุยกับลูกค้าสาว ๆ ร่วมยี่สิบคนแบบมันเต็มที่ เลยจากมาโดยไม่ไปขัดคอ...
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1310069023 หลวงพ่อโตไจ๊ปอ ผู้หญิง ๔ คนช่วยกันสร้าง อธิษฐานขอเกิดเป็นผู้ชาย กำลังเดินทางเข้าที่พัก พอดีท่านนาวินเห็นป้ายบอกทางไปพระราชวังเก่า จึงให้โซยุนท์เลี้ยวเข้าไป อาตมายืนยันว่าจะไปดูพระราชวังเดิมของพระเจ้าบุเรงนอง แต่พลขับมือหนึ่งบอกว่าอยู่ที่ตองอู... มาถึงซุ้มประตูที่กำลังบูรณะอยู่ พวกเราเดินลอดเข้าไป ทางซ้ายมือมีสวนมะพร้าว เห็นแนวอิฐเก่า ๆ โผล่มาเป็นช่วง ๆ ท่านนาวินถึงกับตาลุก เพราะลักษณะอิฐเหมือนกับโบสถ์วัดหนองบัว ซึ่งท่านสืบประวัติไม่ได้ว่าสร้างในสมัยใด... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1310069023 พระที่นั่งสุวรรณมณเฑียร กำลังบูรณะขึ้นมาใหม่ ซ้ายมือเป็นโรงเรือนเก็บท่อนซุงเก่า ๆ มีการลงทะเบียนหมายเลขกำกับเป็นระเบียบ พอเห็นป้ายครูบาน้อยจึงยอมรับว่าเป็นวังบุเรงนองจริง ๆ ผ่านกองรักษาการณ์เข้าไปแล้ว ขวามือเป็นพระที่นั่งสุวรรณมณเฑียรมหึมา กำลังบูรณะกันอยู่... |
2 Attachment(s)
ทางซ้ายมือเหลืองอร่ามงามตาคือพระที่นั่งภมรบัลลังก์ เป็นองค์เดียวที่บูรณะเสร็จสมบูรณ์ ด้านหน้าพระที่นั่งเป็นร่องรอยของหมู่พระตำหนักเก่า เห็นแนวหินและตอเสาไม้โผล่เป็นแถวเป็นแนวเต็มไปหมด...
http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1310069266 พระที่นั่งภมรบัลลังก์ เป็นองค์เดียวที่บูรณะเสร็จแล้ว หมวดกันยุนท์ไปตีตั๋วเข้าชมสถานที่ และจ่ายค่านำกล้องเข้าไป ๒๐๐ จั๊ต ได้บัตรมาพอดีพวกเราชมเรียบร้อยแล้ว ท่านนาวินกัดฟันควักเงินที่มีอยู่น้อยนิดให้ทิดจิตรไป ซื้อ อิฐเก่ามาสักชิ้น อ้ายทิดดันใช้ตันอูพลขับสำรองไปแทนซะนี่... เดินชมร่องรอยวังเดิมจึงทราบว่า เขาเรียกพระราชวังนานดอยา (มเหสีเอกคาดว่าเป็นสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา) จากมุมนี้มองไปจะเห็นพระมหาธาตุชุยมอดอเด่นอยู่ตรงหน้า ผู้หมวดไปตามเจ้าหน้าที่มาเปิดพิพิธภัณฑ์ ให้พวกเราเข้าไปชมสิ่งของเก่า ๆ ที่รวบรวมมาจากการขุดแต่งวังเดิม... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1310069266 ภายในพิพิธภัณฑ์ของพระราชวังเก่าบุเรงนอง เสียดายที่ใกล้ค่ำแล้ว แสงสีไม่เหมาะกับการถ่ายรูป ต้องจากมาด้วยความเสียดาย ท่านนาวินพามาพักที่วัดป๊บปายม (บุปผารมณ์) ซึ่งเจ้าอาวาสคือท่านอาจารย์ใหญ่จันทิมา นั้นซี้กับท่านอาจารย์ใหญ่ธัมมะเสนะมาก... |
1 Attachment(s)
ท่านวิฑูระพาพวกเราเข้าที่พัก หอบเสื่อหอบหมอนมาให้ครบคน ขอทราบยอดทั้งพระและฆราวาส เพื่อจะได้เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ได้ถูกต้อง พวกเราคว้าสบู่ ยาสีฟัน และสารพัดอาวุธสำหรับสรงน้ำ – ซักผ้า ได้ก็ลุยทันที ที่สรงน้ำอยู่ทางด้านหลังวัด เป็นบ่อโพงเหมือนกับวัดเจ้าไว แต่น้ำไม่ยักเย็นเหมือนกัน มันอุ่น ๆ อย่างไรพิกล..!
กลับจากกิจธุระจำเป็นแล้ว คนอื่นแยกย้ายกันไปสวดมนต์ที่พระมหาธาตุชุยมอดอ ขณะที่อาตมานั่งลงบัญชีประจำวัน พร้อมกับฟังพระเณรท่องหนังสือไปด้วย วัดบุปผารมณ์เป็นสำนักเรียน เสียงท่องหนังสือเซ็งแซ่ทีเดียว... http://www.watthakhanun.com/webboard...1&d=1310240847 พระมหาธาตุชุยมอดอ ท่านนาวินบอกว่า มีข่าวพระอรหันต์ละสังขารที่บ้านชานหยั่วจี (บ้านใหญ่ชาวสยาม) ท่านไปปรากฏกายทิพย์ให้ช่างภาพถ่ายรูป และพิมพ์รอยเท้าไว้ให้ พร้อมกับบอกวันเวลามรณะเสร็จสรรพ ถึงเวลาท่านก็มรณภาพตามนั้นจริง ๆ... สังขารของท่านยังอยู่ที่บ้านชานหยั่วจี หมู่บ้านนี้ก่อนเคยเป็นบ้านของชาวไทย รถเข้าไม่ถึง ต้องเดินไปประมาณ ๑ ช.ม. ปรึกษากันว่า พรุ่งนี้หลังฉันเช้าแล้วจะไปกัน ใครไม่อยากเดินให้นอนรอที่นี่ ขากลับจะมารับ... คลิกเพื่ออ่านตอนต่อไป |
เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:13 |
ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน
เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.