กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๖ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3897)

เถรี 10-10-2013 13:04

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๕๖
 
ถาม : การที่เราหยิบฉวยของผู้อื่นมาใช้เมื่อเดือนก่อน ปัจจุบันเรายังใช้ของนั้นอยู่ ด้วยเหตุนี้จะทำให้ศีลของเราในปัจจุบันบกพร่องหรือขาดหรือไม่ครับ ? ถ้าใช่จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรเพื่อให้มีศีลห้าบริสุทธิ์ ?
ตอบ : ศีลขาดไปตั้งแต่เดือนก่อน ยังใช้มาจนถึงปัจจุบันก็ขาดตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ถ้าจะแก้ไขก็เอาไปคืนเขาพร้อมกับมูลค่าการสึกหรอด้วย หลังจากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตารักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ต่อไป

เถรี 10-10-2013 13:05

ถาม : ความรู้สึกที่เราอยากกินอะไรต่าง ๆ ในแต่ละวัน การนึกเมนูว่าจะกินอะไรดีในแต่มื้อ เป็นอารมณ์ที่ควรละทิ้งหรือไม่ครับ ?
ตอบ : เป็นอารมณ์ที่เลวมาก ควรที่จะเก็บอารมณ์นี้เอาไว้ จะได้รู้ว่าเราเลวแค่ไหน..!

เถรี 10-10-2013 13:07

ถาม : ขอความเมตตาให้คำจำกัดความของกิเลสที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันด้วยครับ ตอนนี้ผมมองไม่ออกว่าอะไรคือกิเลส เพราะการดำเนินชีวิตประจำวัน อะไร ๆ ก็ดูเป็นสิ่งจำเป็นทั้งหมด
ตอบ : แสดงว่าโง่ขนาด..! อะไรก็ตามที่ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นได้รส กายสัมผัส ใจครุ่นคิด แล้วเกิดรัก โลภ โกรธ หลงเป็นกิเลสทั้งหมด แปลว่านอนอยู่กองกิเลสเป็นภูเขาเลากาแต่ดันไม่รู้จักหน้ากิเลส..!

ถาม : บางทีก็จำเป็นครับ
ตอบ : ก็แปลว่าเราจำเป็นที่จะต้องเกิดต่อไป..!

ถาม : แล้วมีวิธีแยกแยะไหมครับว่าอย่างไหนเป็นกิเลส ?
ตอบ : เต็มที่ก็แค่ปัจจัย ๔ เกินนั้นเป็นกิเลสทั้งหมด แค่ปัจจัย ๔ แท้ ๆ ยังเป็นกิเลสเลย แล้วจะไปนับอะไรกับตัวอื่นอีก เกินความจำเป็นก็เป็นเรื่องของกิเลสต้องการทั้งนั้น

เถรี 10-10-2013 13:09

ถาม : เรื่องอารมณ์ของพระโสดาบัน ผมได้ฟังเทปคำสอนของหลวงพ่อวัดท่าซุง มีอยู่ข้อหนึ่งท่านสอนว่าพระโสดาบันต้องทรงอารมณ์ระดับปฐมฌานขึ้นไป ขอเมตตาสั่งสอนเกี่ยวกับการฝึกเพื่อให้ได้อารมณ์ปฐมฌานและการรักษาอารมณ์นี้ด้วยครับ
ตอบ : นั่งสมาธิให้ได้ปฐมฌานแล้วรักษาไว้ ก็แค่นั้นแหละ

เถรี 10-10-2013 13:10

ถาม : ผมอยากทราบว่า การที่เราจะไปสัมภาษณ์งานที่อื่น แล้วเราก็ลางานโดยบอกว่าป่วย หรือไปเยี่ยมญาติที่ป่วยเพราะอุบัติเหตุ แล้วเราก็ไม่ได้ป่วยจริง อย่างนี้จะผิดศีลไหมครับ ?
ตอบ : เรื่องนั้นเป็นเรื่องโกหก เรารู้ว่าเรื่องนั้นเป็นเรื่องโกหก เราตั้งใจโกหก เราลงมือโกหก เราโกหกสำเร็จ ผิดร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ถ้าไม่ครบองค์โทษลดไปตามส่วน แต่ก็มีโทษไม่ใช่ไม่มี

เถรี 10-10-2013 13:12

ถาม : คุณพ่อสงสัยว่า บุคคลที่ได้ไปร่วมงานมงคล เช่น มงคลสมรส ขึ้นบ้านใหม่ เป็นต้น ซึ่งจัดงานดังกล่าวในวันเสาร์ ๕ จะมีผลอย่างไรครับ ? และหากมีผลจะแก้ไขอย่างไรครับ ?
ตอบ : มีผล ๒ ข้อ ข้อที่ ๑ ถ้าเอาเงินไปช่วยเขาก็เสียเงิน ข้อที่ ๒ ถ้าเขาเลี้ยงโต๊ะก็อิ่ม เป็นแค่คนร่วมงานจะไปเกี่ยวอะไรกับเขา..!

เถรี 10-10-2013 13:15

ถาม : การศึกษาอภิธรรม อย่างเช่น ไปเรียน ไปฟัง ไปสนทนากัน จำเป็นอยู่ไหมครับสำหรับคนสมัยนี้ ?
ตอบ : ถ้าต้องการมรรคผลจริง ๆ ก็จำเป็น แค่เท่าที่ดูเขาสอนในปัจจุบัน เขาสอนอภิธรรมให้ฟุ้งซ่านมากกว่า

ถาม : เราปฏิบัติให้เกิดผลแล้วความรู้เหล่านี้เกิดขึ้นเองครับ คือคนรอบตัวที่รู้จัก เขาไม่คิดที่นั่งภาวนากันเลยครับ หันไปฟังอภิธรรม จนไม่มีใครสนใจมานั่งภาวนากันเลยครับ ?
ตอบ : แนะนำว่าอย่าไปยุ่งกับเขา..!

ถาม : ไปฟังกับเขาไม่ได้หรือครับ เผื่อจะเกิดปัญญาบ้าง ?
ตอบ : จะได้ฟุ้งซ่านไปด้วย

เถรี 10-10-2013 13:17

ถาม : ระหว่างที่อาราธนาบารมีพระในใจ เราไปกล่าวเป็นเรื่องอื่นเลย เช่น พูดวิธีทำข้าวผัด ขอยกตัวอย่างที่น่าอายให้ทราบค่ะ บางครั้งท่องคาถาของหลวงพ่อก่อนจะนอน "สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ" ไม่ครบ ๗ จบ สักที จนต้องเอานิ้วขึ้นมานับ ที่เป็นอย่างนี้ต้องแก้ไขอย่างไรบ้างคะ ? แต่ก่อนก็ไม่เคยเป็นบ่อยขนาดนี้ ได้แต่ทำใจว่าไม่มีอะไรดีสมบูรณ์ทุกครั้งสำหรับการปฏิบัติ
ตอบ : ทำสมาธิให้ทรงตัวมากกว่านี้ แสดงว่าไม่มีสมาธิเลย ฟุ้งตลอด

ถาม : แล้วการที่เราอาราธนาบารมีพระในใจไป แล้วคุยเรื่องอื่นไปด้วยถือว่าเป็นการปรามาสไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าแบ่งกำลังใจเป็น ๒ ส่วน แล้วทำได้สมบูรณ์ทั้งคู่ถือว่าเก่ง

เถรี 10-10-2013 13:19

ถาม : เมื่อเราประสบสิ่งไม่พอใจ แล้วบ่นว่าพระไม่ช่วยเลย อุตส่าห์ปฏิบัติขนาดนี้แล้ว ทาน ศีล ภาวนา ก็พยายามทำแล้ว ถือได้ว่าเราบกพร่องในการปฏิบัติเพื่อเป็นพระโสดาบันหรือไม่คะ ? คือ ไม่ได้เคารพพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง พอกระทบสิ่งไม่พอใจก็โทษท่าน พอถูกใจก็ยิ้มแย้มและกระหยิ่มยิ้มย่องว่าฉันเคารพพระจริง ๆ
ตอบ : ไม่ต้องสงสัย ปรามาสเต็ม ๆ ต้องบอกว่าแค่โซดายังไม่ได้ใกล้เลย อย่าว่าแต่พระโสดาบัน..!

เถรี 10-10-2013 13:21

ถาม : ดิฉันเข้าใจถูกต้องไหมคะว่าศีลข้อ ๓ ของตนเองได้บกพร่องไปเสียแล้ว เนื่องจากญาติมีเมียน้อย เขามาระบายทุกข์ ได้แนะนำเขาไปว่าจะมีก็มีไป แต่ให้มีเงียบ ๆ อย่าให้ทางบ้านรู้ เคยดูแลส่งเสียอย่างไรก็ทำเหมือนเดิม มาระลึกได้ภายหลัง ถือว่าเราไปยินดีที่เขาละเมิดศีลนี่นา ก็เลยโทรไปบอกเขาว่า ขอพูดใหม่ ฉันไม่สนับสนุนให้เธอมีเมียน้อยแล้วนะ อย่างนี้ตนเองบกพร่องไหมคะ ?
ตอบ : โดนประหารชีวิตไปแล้ว เขาคงจะต่อหัวให้ใหม่ได้หรอก..!

ถาม : อย่างนี้คือไปยินดีที่เขาผิดศีลด้วยใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ใช่ยินดีเฉย ๆ สนับสนุนด้วย

ถาม : ก็เขามีกันอยู่แล้วนี่ครับ
ตอบ : ก็เขามีเขาผิด เขาอยู่ในนรกแล้วเราก็กระโดดตามเขาไปหรือ ?

ถาม : อันนี้ไม่ใช่เมตตาใช่ไหมครับ ?
ตอบ : เมตตาช่วยลงไปอยู่เป็นเพื่อนเขา..!

เถรี 10-10-2013 19:25

ถาม : ในการกำหนดคำภาวนาในการทำกรรมฐาน เมื่อใช้คำภาวนาไปสักระยะหนึ่ง เกิดความรู้สึกนิ่ง สงบ เบา แต่ปรากฏว่าคำภาวนานั้นเปลี่ยนไปเป็นคำอื่นแทน เรียนถามว่าควรใช้ภาวนาคำนั้นต่อเนื่องไปเลย หรือควรเปลี่ยนกลับไปใช้คำภาวนาที่เรากำหนดไว้ตั้งแต่ตอนแรก ?
ตอบ : ถ้าปฏิบัติกองกรรมฐานอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วคำภาวนาเปลี่ยนไป ให้ดึงกลับมาสู่คำภาวนาเดิมตามกองกรรมฐานนั้น แต่ให้ระวังอยู่อย่างหนึ่งว่า ถ้าภาวนาไปใจเริ่มสงบ อยู่ ๆ คำภาวนาเปลี่ยนไปเอง โดยเฉพาะเปลี่ยนไปในลักษณะเป็นพระคาถาที่เกี่ยวกับการป้องกันอันตรายต่าง ๆ ให้รู้ว่าบางอย่างที่ไม่ดีจะเกิดขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้น..รีบใช้คำภาวนาที่เปลี่ยนใหม่ต่อไปโดยด่วนเลย

เนื่องจากว่าเวลาสมาทานกรรมฐานเราจะมีคำว่า “เหตุใดที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นได้โดยมิต้องกำหนดจิต” เมื่อถึงเวลาจิตเริ่มมีความเป็นทิพย์ขึ้นมา สิ่งที่ไม่ดีจะเกิดขึ้นก็หาทางป้องกันตัวเอง จึงต้องระมัดระวังไว้ด้วยว่า ถ้าคำภาวนาเปลี่ยนไปในลักษณะเป็นพระคาถาที่ใช้ในการป้องกันอันตราย แปลว่าระวังให้จงหนัก มีผู้ปรารถนาดีต่อเราแล้ว..!

เถรี 10-10-2013 19:27

ถาม : ตะกรุดกันยาสั่งที่ทำจากกระดูกห่านขาวนั้น ใช้กระดูกช่วงไหนของห่านครับ ?
ตอบ : ช่วงไหนก็ได้ที่ทำแล้วหน้าตาเหมือนตะกรุด

ถาม : ต้มแล้วได้ไหมครับ ?
ตอบ : ห่านเป็น ๆ คงไม่ยอมให้เราทำหรอก

ถาม : แล้วควรต้มไหมครับ ?
ตอบ : ทั้งต้มทั้งล้างให้ดี ไม่อย่างนั้นแล้วมดจะขึ้น

เถรี 10-10-2013 19:31

ถาม : ผมเป็นพนักงานขายของบริษัทตัวแทนจำหน่ายสินค้าชนิดหนึ่ง ได้ขายสินค้าให้กับลูกค้าในราคาหนึ่ง ตกลงซื้อขายกันแล้ว และฝ่ายประสานงานของทางบริษัทได้ทำเรื่องขอลดราคาต้นทุนจากเจ้าของสินค้า แจ้งตัวเลขราคาที่ขายให้ลูกค้ามากกว่าความเป็นจริง ถึงตรงนี้ทราบว่าผิดศีลข้อมุสาแล้ว อยากจะเรียนว่า เราเป็นพนักงานขายจะวางกำลังใจอย่างไร ถึงไม่เข้าข่ายยินดีในการมุสานั้น ? เพราะผลประโยชน์ก็ได้กับผมด้วย การกระทำนี้เขาก็ขอความเห็นและคำสนับสนุนจากผมด้วยว่าเขาจะทำอย่างนี้ บอกตัวเลขเท่านี้
ตอบ : ถ้าลูกค้าเขาเต็มใจซื้อในราคานั้นไม่เป็นไร แต่ถ้าราคาใหม่มาแล้วเราไปบอกว่าราคานี้เป็นราคาที่เราขาย โดยที่ไม่ยอมบอกว่าราคาใหม่ที่เราได้มานั้นต่ำกว่านี้ แปลว่าเจตนาเราโกหก

ถาม : ถ้าเราไปต่อรองได้ทีหลังเป็นความสามารถของเรา แต่ถ้ารู้อยู่ก่อนแล้วตั้งใจไปบิดเบือนนี่เต็ม ๆ ?
ตอบ : เรื่องการค้า หลายคนใช้คำว่าจำเป็นต้องโกหก ถ้าจำเป็นต้องโกหกก็จำไว้ว่าอย่าโกหกตลอด ๒๔ ชั่วโมง เหลือเวลาไว้รักษาศีลบ้าง

เถรี 10-10-2013 19:40

ถาม : ผมเป็นพนักงานขายได้ออกไปพบลูกค้าข้างนอก เมื่อเสร็จงานแล้วผมก็เลยกลับบ้านเลย ซึ่งยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน ตรงจุดนี้เท่ากับว่าผมโกงเวลางาน จะผิดศีลข้อลักทรัพย์หรือไม่ครับ ไม่ทราบผมจะคิดมากเกินไปหรือไม่ครับ กลัวว่าศีลจะด่างพร้อยครับ ?
ตอบ : ด่างพร้อยแน่นอน แต่ไม่ถึงขาด ยกเว้นว่าถึงเวลาให้เขาตัดค่าชั่วโมงของเราไป

ถาม : แล้วไปทำงานชดเชยนอกเวลาได้ไหมครับ ?
ตอบ : นอกเวลาเขาก็ต้องให้ค่าล่วงเวลาเราอีก ไม่ได้ชดเชยของเก่าไปเลย

ถาม : แล้วเอาค่าล่วงเวลามาทำบุญ ?
ตอบ : บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป

เถรี 10-10-2013 19:43

ถาม : หลังจากที่ผมทำสมาธิ ฟังเทปคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงแล้ว จะสวดมนต์ต่อ ตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ในการสวดมนต์เลยครับ มีอารมณ์เฉย ๆ พอสวดซ้ำไปหลายรอบก็เหมือนว่าสักแต่ว่าท่องให้จบ ๆ ไป ตรงจุดนี้ผมควรจะวางกำลังใจอย่างไรครับ ?
ตอบ : วางกำลังใจว่า "ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปกูลงนรกแน่ ๆ..!" เรื่องของการทำความดีต้องทำให้สม่ำเสมอ ต่อให้จะตายลงไปก็ต้องทำ ไม่ใช่ว่ามาอ้างว่าตูนั่งฟังเสียงท่านแล้วสบายใจ ตูเลยไม่สวดมนต์ หรือตูสวดไปแล้วเซ็งไม่มีอารมณ์จะสวด ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้มีความสุขความเจริญ..!

ถาม : บางทีมีความรู้สึกว่าเรากำลังมีสมาธิ จิตกำลังสงบเลยไม่อยากสวด ?
ตอบ : ลองไปดูวัญจกธรรม ธรรมะที่เป็นเครื่องหลอกลวง หลอกให้คิดว่าเราดีแล้ว ไม่ต้องทำอันนี้ก็ได้

เถรี 10-10-2013 19:44

ถาม : สถานที่ปฏิบัติธรรมแบบเจโตวิมุตติแห่งหนึ่ง ได้รับรองผลการปฏิบัติว่า อย่างน้อยผู้เข้าร่วมปฏิบัติจะบรรลุจตุตถฌานภายใน ๑ ชั่วโมง จะเป็นไปได้จริงหรือคะ ?
ตอบ : ไปลองดู..!

เถรี 10-10-2013 19:46

ถาม : สมมติว่าเราโอนเงินร่วมสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ไม่ได้ทำคนเดียวทั้งองค์ ร่วมเงินกับเขา ไม่ได้ปิดทอง อย่างนี้ถือว่าเราชำระหนี้สงฆ์หมดหรือไม่ครับ หรือได้ชำระแค่จำนวนเงินที่ร่วมทำไป ?
ตอบ : ได้อานิสงส์สร้างพระพุทธรูปอย่างเดียว อานิสงส์การสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ถ้าสร้างเองไม่ได้ปิดทองหน้าตักต้อง ๔ ศอกขึ้นไปจึงชำระหนี้สงฆ์ได้เฉพาะตน ถ้ามีบุคคลร่วมคณะกันต้องปิดทองให้ถึงจะมีอานิสงส์ชำระหนี้สงฆ์ทุกคน

การที่ร่วมกับเขาในการสร้างพระ ต่อให้หน้าตัก ๔ ศอก แต่ถ้าไม่ได้ปิดทองเราก็ได้อานิสงส์สร้างพระเท่านั้น ไม่มีส่วนในการชำระหนี้สงฆ์เลย

เถรี 10-10-2013 19:48

ถาม : อยากทราบวิธีแก้คุณไสยจากการฝังรูปฝังรอยให้คนเกลียดกัน หรือโดนทำคุณไสยให้หลง เพื่อหวังทรัพย์สินครับ และอาการโดนคุณไสยเป็นอย่างไรครับ ?
ตอบ : ส่วนใหญ่การฝังรูปฝังรอยต้องขุดขึ้นมาถึงจะหาย ส่วนอาการไม่ต้องห่วง ผิดปกติเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว สมัยก่อนส่วนใหญ่แล้วจะฝังอยู่ใต้บันไดบ้าน แต่ว่าสมัยนี้ใต้บันไดมักจะเป็นคอนกรีต ขุดไม่ไหว ถ้าจะทำให้เกิดผลอีกทีก็มักจะฝังไว้ทาง ๓ แพร่ง แล้วต้องเป็น ๓ แพร่งที่ใกล้บ้านที่สุด

ฉะนั้น..ไปดูเอา ถ้า ๓ แพร่งที่ใกล้บ้านเทคอนกรีตก็สบายใจ ชีวิตนี้ไม่โดนฝังรูปฝังรอยหรอก

เถรี 10-10-2013 19:49

ถาม : อยากทราบวิธีทางพุทธไสยศาสตร์ที่ใช้กำจัดคนชั่ว คนเลว คนโกงที่กำลังทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยวิธีการปิดกั้นกุศลกรรมไม่ให้ส่งผล และให้อกุศลกรรมส่งผลโดยฉับพลัน ?
ตอบ : ไม่เคยได้ยิน..ให้คนถามไปลองทำดู ถ้าสำเร็จช่วยมาบอกอาตมาด้วย

เถรี 10-10-2013 19:51

ถาม : หากเราได้ปลูกบ้านโดยไม่ทราบว่ามีจอมปลวกอยู่ แล้วได้ปลูกทับลงไปจะมีผลอย่างไรบ้างคะ ? และสามารถแก้ไขได้อย่างไรได้บ้างไหมคะ ?
ตอบ : เป็นไปไม่ได้ จะปลูกบ้านถ้ามีจอมปลวกอยู่ต้องเห็น เป็นไปได้อย่างไรที่ปลูกทับไปโดยไม่รู้เรื่อง ?

ถาม : บางทีให้ช่างเขาจัดการไป เราไม่ได้ไปดูเลย ?
ตอบ : โบราณเขาถือว่าการปลูกบ้านคร่อมตอหรือจอมปลวกเป็นกาลกิณี ให้ใช้น้ำมนต์ธรณีสารไปรด แต่อาตมาว่าสมัยนี้ส่วนใหญ่ไม่ต้องแก้ไขหรอก เพราะช่างมักจะอัดน้ำยากันปลวกให้เรียบร้อยแล้ว ถึงเวลาทำบุญทำกุศลอะไรก็อุทิศให้เขาไปบ้างก็แล้วกัน


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 08:38


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว