กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=39)
-   -   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุุกร์ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6322)

เถรี 06-09-2018 21:20

เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุุกร์ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๑
 
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติก็คือความรู้สึกของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓๑ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันแรกของเดือนกันยายน การปฏิบัติธรรมของพวกเรานั้น ส่วนใหญ่แล้วก็หวังความพ้นทุกข์ ในเมื่อเป้าหมายใหญ่อยู่ที่การพ้นทุกข์ ก็ต้องให้ทุกลมหายใจเข้าออกของเรา พยายามพิจารณาให้เห็นเสมอว่า ร่างกายของเรานี้ก็ดี ร่างกายของคนอื่นก็ดี ร่างกายของสัตว์อื่นก็ดี วัตถุธาตุต่าง ๆ ก็ดี ล้วนแล้วแต่ประกอบไปด้วยความทุกข์

วันนี้เป็นวันศุกร์สิ้นเดือน มีรถติดเป็นปกติ ฝนตกอีกต่างหาก เราก็พิจารณาให้เห็นว่า ธรรมดาของการเกิดมา ก็ต้องพบกับความทุกข์เช่นนี้ ต้องพบกับอาการรถติด ไม่ว่าจะติดเพราะว่ารถมีมากเกินไป หรือว่าติดเพราะเกิดอุบัติเหตุ หรือว่าติดเพราะว่าฝนตกลงมาซ้ำเติม ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาเพื่อเจอสภาพของความทุกข์ต่าง ๆ อย่างรถติดเช่นนี้ จะไม่มีสำหรับเราอีก ตายจากชาตินี้เมื่อไร เราขอไปพระนิพพานที่เดียว

ตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมา ก็พยายามมองให้เห็นว่า ชีวิตนี้มีแต่ความทุกข์ ตื่นขึ้นมาเรายังง่วง ยังเหนื่อย ยังเพลียไม่หาย เราก็ต้องลุกขึ้นล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัว เพื่อเตรียมที่จะไปผจญกับวันใหม่ของเราอีกแล้ว ไม่รู้ว่าสภาพจราจรวันนี้จะย่ำแย่แค่ไหน ไม่รู้ว่าวันนี้เจ้านายจะอารมณ์เสียหรือเปล่า ไม่รู้ว่าวันนี้ลูกน้องจะเอางาน เอาปัญหามาหมกให้เท่าไร ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาแล้วมีแต่ความทุกข์เช่นนี้ เราไม่พึงปรารถนาอีก ถ้าหากว่าตายลงไป เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว ย้ำกับตัวเองเช่นนี้บ่อย ๆ วันหนึ่งเป็นร้อยเป็นพันครั้งได้ก็ยิ่งดี

เถรี 08-09-2018 08:48

แล้วมาพิจารณาทบทวนศีลทุกสิกขาบทของเราให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ล่วงละเมิดศีลด้วยตัวเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล ทำความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างจริงจัง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง

รู้ตัวอยู่เสมอว่าชีวิตของเรามีอยู่แค่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออกไม่หายใจเข้าก็ตายเช่นกัน ในเมื่อธรรมดาของชีวิตเกิดมามีแต่ความทุกข์เช่นนี้ ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนแบบนี้ก็ดี การเกิดมามีร่างกายที่ต้องเผชิญกับความทุกข์ตั้งแต่ลืมตาตื่นยันหลับตาลงก็ดี จะไม่มีสำหรับเราอีก ถ้าหากว่าสิ้นชีวิตลงไปเพราะหมดอายุขัยก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ จนถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราตั้งใจไปพระนิพพานแห่งเดียว

แล้วเอาใจของเราจดจ่อไว้ที่พระนิพพาน คือจดจ่อไว้ที่พระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบ ว่านั่นคือพุทธนิมิตแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เราระลึกถึงพระองค์ท่านได้แปลว่าเราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่านแปลว่าเราอยู่บนพระนิพพาน พยายามรักษากำลังใจของเราเอาไว้ในลักษณะนี้ จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๑

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 12:30


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว