กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เดือนเมษายน ๒๕๖๕ (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=118)
-   -   เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๕ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=8537)

ตัวเล็ก 24-04-2022 19:49

เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๕
 
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๕



เถรี 24-04-2022 23:11

วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ วันนี้ก็มีภารกิจทั้งวัน ล่าสุดก็คือไปประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ เรื่องหนึ่งที่ปรึกษากันในที่ประชุมก็คือ การจัดงานพระราชทานเพลิงศพพระครูเกษมกาญจนกิจ (อำนวย อนีโฆ) อดีตเจ้าอาวาสวัดลิ่นถิ่นพัฒนาราม อดีตเจ้าคณะตำบลลิ่นถิ่น เขต ๑

ตรงส่วนนี้เมื่อปรึกษาหารือกันแล้วก็มีปัญหาอยู่ ๒ เรื่อง ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เป็นเรื่องเดียวกัน ปัญหาเรื่องแรกก็คือ บรรดาญาติพี่น้องของพระครูเกษมกาญจนกิจ หรือที่เราเรียกกันง่าย ๆ ว่า หลวงพ่ออำนวย เข้ามายุ่มย่ามวุ่นวายกับเงินทอง ที่มีผู้คนบริจาคเพื่อช่วยงานบำเพ็ญกุศลในแต่ละคืน

ประการที่สองก็คือ การจัดงานพระราชทานเพลิงศพนั้น ต้องนิมนต์พระเถระ เจ้าคณะปกครอง ทั้งในและนอกพื้นที่ ซึ่งตรงส่วนนี้จะมีรายจ่ายประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ บาท ปรากฏว่าโดนทักท้วงจากทางญาติพี่น้อง ซึ่งหวังว่าถ้ามีเงินเหลือก็น่าจะตกถึงมือตัวเองบ้าง โดยที่ไม่ได้พินิจพิจารณาว่าการใช้จ่ายนั้นเพื่ออะไร

การบำเพ็ญกุศล ก็คือต้องการให้ได้บุญไปหนุนไปเสริมคุณความดีเก่าของผู้เสียชีวิต จะได้รวมกันเป็นกำลังส่งท่านไปสู่สุคติดังที่หวัง แต่ญาติโยมส่วนใหญ่แล้วมักจะสนใจในเรื่องของการใช้จ่ายไปในมหรสพ ในเรื่องของอาหารการกิน ซึ่งไม่ได้สร้างบุญสร้างกุศลอะไรให้กับผู้ตายเลย

แต่การถวายปัจจัยไทยธรรมแก่พระเถรานุเถระเกิน ๔ รูป ซึ่งเป็นสังฆทาน มีผลานิสงส์ยิ่งใหญ่มาก จะได้อุทิศเป็นกัลปนาผลแก่ผู้ที่ล่วงลับไป กลับไม่ได้รับความสนใจจากบุคคลที่อยู่เบื้องหลัง โดยเฉพาะจากญาติพี่น้อง ซึ่งต้องเรียกว่า "คลำผิดเป้า"

ในเรื่องนี้ทำให้เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุสามเณรของเรา หรือว่าฆราวาสก็ตาม จะจัดงานอะไรก็ล้วนแล้วแต่ข้องเกี่ยวกับงบประมาณทั้งสิ้น โดยเฉพาะถ้าพระเถระที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ โดยเฉพาะเป็นผู้ที่คุ้นเคยกับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ชนิดที่ไม่นิมนต์ก็ไม่ได้ แล้วเราจะไปถวายท่านร้อยสองร้อย เหมือนกับพระภิกษุสามเณรในพื้นที่ แค่ค่าน้ำมันรถก็ไม่ได้แล้ว

เถรี 24-04-2022 23:16

เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพมีประสบการณ์หลายต่อหลายครั้งด้วยกัน ครั้งแรกเลยก็คือเป็นคู่สวดในการอุปสมบทแก่นาคท่านหนึ่ง เมื่อเสร็จพิธีการแล้ว ทางเจ้าภาพก็ประเคนปัจจัยไทยธรรม กรวดน้ำ รับพร เรียบร้อย แห่นาคกลับไปฉลองที่บ้าน ซึ่งถ้าฟังไม่ผิดก็คือตั้งโต๊ะจีนไว้ ๔๐ โต๊ะ ส่วนจะเป็นเงินเท่าไรนั้น แล้วแต่เขาเถอะ

แต่ว่าตรงที่จะพูดถึงก็คือ องค์พระอุปัชฌาย์นั้นคือพระเดชพระคุณพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทโธ ป.ธ.๔) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี หลวงพ่อท่านแกะซองปัจจัย แล้วก็หันมาถามกระผม/อาตมภาพว่า "ลองแกะของท่านดูซิ เขาให้ผิดหรือเปล่า ?" ว่าแล้วท่านก็ดึงปัจจัยในซองของท่านออกมาให้ดู มีอยู่ ๒๐๐ บาท..!

กระผม/อาตมภาพกับพระมหาทองดี โชติปัญโญ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาญบุรีตอนนั้น แกะซองของตัวเองออกมา มีคนละ ๒๐ บาท..! หลวงพ่อท่านก็หัวเราะ ส่งใบละร้อยมาให้ใบหนึ่ง "เอาไปแบ่งกันคนละครึ่ง..!"

สรุปว่า เจ้าคณะจังหวัด ผู้ปกครองระดับสูงที่สุดของคณะสงฆ์ในจังหวัดกาญจนบุรี เป็นเจ้าคุณชั้นเทพ นั่งพระอุปัชฌาย์ ได้รับถวายปัจจัยมา ๒๐๐ บาท กระผม/อาตมภาพเป็นพระคู่สวดได้ ๒๐ บาท เมื่อหลวงพ่อท่านเสียสละให้ ท่านก็เหลือแค่ร้อยเดียว กระผมกับมหาทองดีได้ไปคนละ ๗๐ บาท..!

ที่กล่าวตรงนี้ ไม่ได้หมายความว่าดูหมิ่นเงินน้อย แต่ว่าเขาเลี้ยงโต๊ะจีนที ๔๐ - ๕๐ โต๊ะ เลี้ยงได้ เป็นการเลี้ยงฆราวาส ซึ่งไม่ใช่เนื้อนาบุญ แต่ในส่วนปัจจัยไทยธรรมถวายพระ ซึ่งจะอำนวยผลเป็นกุศลมหาศาล เขากลับประหยัดกันสุดชีวิต..!

อีกวาระหนึ่ง กระผม/อาตมภาพได้รับนิมนต์ไปเจริญพุทธมนต์งานแต่งงานของบุคคลที่คุ้นเคย ต้องเดินทางลงไปถึงจังหวัดปัตตานีพร้อมกับเพื่อนพระอีก ๒ รูป รวมแล้วก็คือ ๓ รูปด้วยกัน จ่ายค่าตั๋วรถไฟชั้น ๒ ขาไป ๗๐๐ กว่าบาท ขากลับ ๗๐๐ กว่าบาทต่อรูป ไปกลับก็ประมาณรูปละ ๑,๕๐๐ บาท

เมื่อเจริญพุทธมนต์ให้คู่บ่าวสาวเรียบร้อย เจ้าภาพถวายมารูปละ ๓๐๐ บาท..! ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดที่เคยถวายพระในบริเวณนั้นแล้ว แต่ลืมนึกไปว่าพวกกระผม/อาตมภาพไปงานเขาอย่างไร ? ใช้จ่ายไปเท่าไร ?

ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายที่เคยช่วยจัดซองปัจจัยไทยธรรมถวายพระเถระที่มาร่วมงานวัดท่าขนุน จะเห็นว่ากระผม/อาตมภาพคิดเผื่อให้ท่านที่มาจากทางไกลเสมอ ก็คืออย่างน้อย ๆ ท่านมางานของเราก็อย่าให้ท่านขาดทุน เพราะว่าถ้าให้ท่านขาดทุนบ่อย ๆ ต่อไปท่านก็จะไม่มีทุนให้ขาด แล้วงานของเรา ท่านก็ไม่สามารถที่จะมาได้อีก

เถรี 24-04-2022 23:17

อีกวาระหนึ่งเมื่อไม่นานนี้เอง กระผม/อาตมภาพได้รับนิมนต์ไปเป็นประธานในการพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ ของโยมแม่ของพระสังฆาธิการท่านหนึ่ง ที่อำเภอหนองปรือ จังหวัดกาญจนบุรี นึกเอาก็แล้วกันว่าวิ่งจากที่วัดท่าขนุนนี่ไปไกลแค่ไหน เพราะว่าแค่จากทองผาภูมิวิ่งลงไปถึงกาญจนบุรีก็ ๑๔๐ กิโลเมตรแล้ว แล้วยังต้องวิ่งต่อจากกาญจนบุรีไปอำเภอหนองปรืออีก รวมแล้วไปกลับ ๔๐๐ กว่ากิโลเมตร กระผม/อาตมภาพที่เป็นประธานในงานนั้น เจ้าภาพได้รับถวายปัจจัยมา ๑๐๐ บาทถ้วน..!

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ และไม่ได้ตำหนิผู้ถวาย เพียงแต่ว่าขาดความรอบคอบในการทำงานเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าคิดอย่างไรเสีย ค่าน้ำมันไปกลับ ระยะทางประมาณ ๔๐๐ กิโลเมตรก็น่าจะเกิน ๑๐๐ บาทอย่างแน่นอน

ดังนั้น...ในส่วนที่บอกกล่าวกับพวกเราในที่นี้ก็คือว่า ไม่ว่าจะกิจการงานของพระภิกษุสามเณร หรือว่าฆราวาส ล้วนแล้วแต่ข้องเกี่ยวด้วยงบประมาณทั้งสิ้น ของกระผม/อาตมภาพยังดีตรงที่ว่า สามารถทำพระคาถาเงินล้านได้ขึ้น คำว่า ขึ้น ในที่นี้ก็คือทำแล้วปรากฏผล

อย่างเมื่อตอนประมาณบ่ายโมงเศษ ได้เซ็นสัญญากับบริษัท SEUMWORKS เพื่อจ้างให้มาสร้างพิพิธภัณฑ์วัดท่าขนุนในงบประมาณ ๑๕๕ ล้านบาท ระยะเวลาการก่อสร้าง ๕๔๐ วัน คือปีครึ่ง นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป เฉพาะงานนี้งานเดียว กระผม/อาตมภาพต้องจ่ายให้เขาเดือนละ ๘ ล้านบาท ยกเว้นงวดสุดท้ายคืองวดที่ ๑๙ ต้องจ่ายเป็นเงิน ๑๑ ล้านบาท ถ้าเป็นวัดอื่นก็เป็นลมตายไปเรียบร้อยแล้ว..!

แต่กระผม/อาตมภาพนั้น มีประสบการณ์จากการใช้พระคาถาเงินล้านมานับครั้งไม่ถ้วน ว่าถ้าหากจำเป็นขึ้นมาเมื่อไร เงินทองจะมาเองอย่างคาดไม่ถึง ถ้าหากว่าไม่มีผู้คนมาถวาย บางทีอยู่ ๆ เงินนั้นก็ปรากฏขึ้นมาเอง

เถรี 24-04-2022 23:21

ตรงจุดนี้ต้องไปถามไอ้ตัวเล็ก เวลารวบรวมเงินในกระทู้ต่าง ๆ ที่ญาติโยมร่วมบุญกับวัดท่าขนุนมา เพื่อเอามาส่ง ปรากฏการณ์ชัดเจนที่สุดครั้งหนึ่ง ก็คือตอนที่จะซื้อทองคำเพื่อหล่อพระพุทธรูป ซึ่งต้องใช้หลายสิบล้านบาท เบิกเงินจนหมดทุกบัญชีแล้วก็ยังขาดอยู่อีกประมาณ ๑ ล้านบาท

เมื่อไล่นับ ไล่สำรวจ ตรวจสอบเสร็จสรรพเรียบร้อย ลงบัญชีแน่นอนแล้ว อยู่ ๆ ก็มีเงิน ๑ มัดกองอยู่ตรงหน้า ๑ ล้านบาทถ้วน ๆ..! ทุกคนนั่งกุมขมับกันหมด เพราะว่านับแน่นอนแล้ว อยู่ ๆ เงินก็งอกขึ้นมาเอง

ทุกครั้งที่กระผม/อาตมภาพนำเงินสังฆทานไปฝากธนาคาร เจ้าหน้าที่นับเมื่อไรก็จะมาแจ้งยอดว่ามีผิด มีเกินเสมอ ครั้งละหลาย ๆ พันบาท แล้วบางทีก็ถามว่า "ใครช่วยหลวงพ่อนับเงิน ?" ซึ่งตรงจุดนี้กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่นั่งยิ้มอย่างเดียว ไม่รู้จะบอกอย่างไร เพราะว่าตัวเองก็นับกับเขาด้วย ดังนั้น...รายจ่ายตรงจุดนี้ที่ทุกคนคิดว่าเป็นจำนวนมากมายมหาศาล ในความรู้สึกของกระผม/อาตมภาพจึงไม่มีอะไรให้ต้องหนักใจเลย

เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเราและญาติโยมที่ฟังอยู่ว่า ในสถานการณ์ที่ประเทศชาติก็ดี โลกของเราก็ดี เดือดร้อนด้วยข้าวของแพง จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ และภาวะสงคราม

ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายเอาใจใส่ในการภาวนาพระคาถาเงินล้าน ไม่ต้องทุ่มเทถึงขนาดกระผม/อาตมภาพเคยทำก็ได้ แต่ว่าให้ทำอย่างจริงจังและสม่ำเสมอ ลองดูว่าภายในระยะเวลาที่ท่านทำ ถ้าหากว่าสม่ำเสมอจริงจังแล้ว ๒ เดือนผ่านไป จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?

จึงขอฝากเอาไว้ให้พระภิกษุสามเณรของเรา และญาติโยมทั้งหลายได้ลองนำไปปฏิบัติดูแต่เพียงเท่านี้


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 06:43


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว