กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=47)
-   -   เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๘ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4406)

เถรี 06-04-2015 08:29

เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๘
 
ถาม : ภรรยาผมได้รับงานออกแบบบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเจ้าของบ้านเป็นชาวต่างชาติ และมีความประสงค์จะนำพระพุทธรูปองค์ใหญ่มาเป็นส่วนประดับตกแต่งบริเวณสวนหลังบ้าน อยากทราบว่าเจ้าของบ้านมีโทษเพียงใด ? ทั้งนี้ได้คัดค้านไปแล้ว แต่เจ้าของบ้านก็ยังยืนยันเช่นเดิม ถ้าหากว่าทำงานนี้ต่อไปความผิดจะตกที่ผู้ออกแบบด้วยหรือไม่ประการใดครับ ?
ตอบ : ทั้งคู่ ทั้งคนตั้งใจประดับกับคนช่วยโดนด้วยกัน เป็นโทษปรามาสพระรัตนตรัย ทั้งชาตินี้และชาติหน้าไม่ต้องเข้าถึงมรรคถึงผลกัน

ถาม : เป็นผู้รับเหมานี่ปฏิเสธงานไม่ได้ด้วย ทำอย่างไรดีครับ ?
ตอบ : ทำไมจะปฏิเสธไม่ได้วะ ? แค่กูไม่เอางานนี้ก็จบแล้ว..!

เถรี 06-04-2015 08:32

ถาม : การตั้งศาลพระภูมิ หากบริเวณบ้านในทิศที่เหมาะสม เช่น ทิศเหนือหรือทิศตะวันออก ไม่สามารถตั้งเป็นศาลแบบเสาเดียวได้ จะตั้งเป็นหิ้งแทน เพื่อเป็นการบูชาพระภูมิได้ไหมครับ ?
ตอบ : ไม่ตั้งดีกว่า

ถาม : แล้วอย่างนี้หากต้องการจะบูชาพระภูมิต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : รื้อบ้านทิ้งแล้วสร้างศาลแทน..!

ถาม : แต่เคยเห็นหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านแนะนำเจ้าของร้านขายหมูที่อุทัยธานีให้ตั้งหิ้งที่หัวนอนอะไรอย่างนี้ เราทำอย่างนั้นได้หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : เป็นเรื่องเฉพาะคน

ถาม : เจว็ดควรเป็นไม้ ทองเหลืองปิดทอง หรือเรซิ่นจึงจะถูกต้องเหมาะสมครับ ?
ตอบ : เป็นทองคำจะเหมาะสมที่สุด..!

ถาม : เจว็ดคืออะไรครับพระอาจารย์ ?
ตอบ : รูปเคารพในศาล

ถาม : ผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามที่ท่านพระอาจารย์เคยแนะนำให้ติดที่ศาลพระภูมิ กรณีที่ตั้งบูชาเป็นหิ้งควรติดผ้ายันต์ที่ตำแหน่งไหนครับ ?
ตอบ : โปรดอย่าเข้าใจผิด กูไม่เคยแนะนำ เพียงแต่บอกว่าที่วัดทำอย่างนั้น อย่าเสือกทะลึ่งคิดว่าแนะนำ..!

ถาม : แล้วถ้าอยากบูชาควรทำอย่างไรครับ จุดธูปหน้าหิ้งพระเอาอย่างนี้ ?
ตอบ : คำตอบอะไรที่ตอบไปจะสมบูรณ์ในตัวอยู่แล้ว อย่าเสือกแสดงความเห็นเพิ่มเติมอีก..!

เถรี 06-04-2015 08:33

ถาม : ยันต์ปัญจพุทธา มีวิธีการเขียนชักยันต์ที่ถูกต้องและถูกวิธีอย่างไรครับ ?
ตอบ : ใช้ปากกาหรือดินสอเขียน

ถาม : มีคาถากำกับในการเขียนยันต์หรือเปล่าครับ ?
ตอบ : ทรงสมาบัติแปดให้ได้ก็พอ

ถาม : มีวิธีการปลุกเสกในขณะเขียนยันต์อย่างไรครับ ?
ตอบ : เขียนเสร็จก็ใช้ได้เลย

ถาม : และสุดท้าย มีวิธีการปลุกเสกแผ่นยันต์ปัญจพุทธาอย่างไรครับ ?
ตอบ : ตั้งเครื่องบวงสรวงชุดใหญ่ บายศรี ๙ ชั้น

เถรี 06-04-2015 08:34

ถาม : ถ้าบ้านไหนที่มีการทำบุญบ้านแล้วมีการถวายภัตตาหารพระ อยากทราบว่าอาหารที่พระฉันเหลือแล้ว คนที่มาร่วมงานทั้งหมดสามารถนำไปกินต่อหรือนำอาหารที่เหลือกลับบ้านได้หรือไม่ ? และมีโทษหรือไม่ครับ ?
ตอบ : หากว่าเป็นของที่บ้าน พระฉันเหลือแล้วก็เป็นสิทธิ์ของโยม


ถาม : พวกภาชนะหรือของใช้ต่าง ๆ ในงาน จะกลายเป็นของสงฆ์หรือว่ายังคงเป็นของผู้ที่จัดหามาครับ ?
ตอบ : ถ้าตั้งใจถวายจะเป็นของสงฆ์ไปด้วย แต่โดยนัยปกติเป็นที่รู้กันว่าถวายแค่อาหาร พระรูปไหนหยิบถ้วยจานใส่ย่ามก็ตีมือเลย..!


ถาม : ระหว่างการทำบุญบ้านโดยนิมนต์พระมากับการไปถวายภัตตาหารที่วัดโดยตรง หรือว่าทำบุญใส่ซองถวายปัจจัยเป็นค่าภัตตาหารเลี้ยงพระ จะมีอานิสงส์เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : ทำบุญที่บ้านจะมีอานิสงส์เหนื่อยมากกว่า..!

เถรี 06-04-2015 21:09

ถาม : ผมได้นำพระเครื่องวัตถุมงคลที่มีอยู่ไปเปิดประมูล โดยตั้งหัวข้อประมูลดังนี้ "ประมูลเพื่อสะสมยอดเงินไปทำบุญกับวัดท่าขนุน ๑๐๐%" ต่อมาได้ทำการประมูลหลายครั้ง เมื่อสะสมเงินได้จำนวน ๕,๐๐๐ บาท จึงได้ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูปทองคำ โดยได้ร่วมจองตะกรุดมหาสะท้อน รุ่น ๕ วัดท่าขนุน จำนวน ๑ ดอก เพื่อความมั่นใจจึงขอเรียนถามว่าตะกรุดนี้จะเป็นของใคร ระหว่างผมกับผู้ร่วมประมูลครับ ?
ตอบ : ถือว่าฉ้อโกง มีโทษเท่าย้ายเจดีย์ เพราะว่าเขาตั้งใจทำบุญ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่ทำบุญให้ไปบูชาตะกรุด

เถรี 06-04-2015 21:09

ถาม : ตามปกติทางเว็บวัดท่าขนุนจะมีการแจกปฏิทินฤกษ์พรหมประสิทธิ์ทุกปี แต่เนื่องจากปีนี้ไม่มีแจก ลูกจึงขออนุญาตถามหลวงพ่อว่าลูกจะยึดฤกษ์พรหมประสิทธิ์ได้จากที่ใดคะ ? ถ้าเป็นปฏิทินที่แจกเมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๘ นี้สามารถใช้ได้หรือไม่คะ ?
ตอบ : อยู่ที่ว่าจะเชื่อไหม ถ้าเชื่อก็ใช้ได้

เถรี 06-04-2015 21:09

ถาม : สัจจะสมมุติ หมายความว่าอย่างไร ?
ตอบ : ไม่เคยได้ยิน

ถาม : แล้วเราจะพิจารณาสัจจะสมมุติให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร ?
ตอบ : ต้องไปถามคนที่เคยได้ยิน

เถรี 06-04-2015 21:10

ถาม : สำหรับคนที่เริ่มปฏิบัติกรรมฐาน จะฝึกแบบไหนถึงจะได้ผลเร็วที่สุด ?
ตอบ : รักษาศีล เจริญสมาธิ พิจารณาวิปัสสนาญาณ

ถาม : สำหรับนักปฏิบัติที่ปฏิบัติได้ในระดับหนึ่งแล้ว แล้วทิ้งการปฏิบัติไปนาน ๆ แล้วกลับมาปฏิบัติใหม่ ต้องใช้เวลานานไหมครับถึงจะกลับมาที่จุดเดิม แล้วควรเริ่มพื้นฐานตั้งแต่เดิมเลยหรือไม่ ?
ตอบ : ลองทำดูถึงจะรู้ว่านานเท่าไหร่ จะมาถามหาส้น..อะไรวะคำถามแบบนี้...!

เถรี 06-04-2015 21:10

ถาม : สำหรับบุคคลที่เชื่อมั่นในบุญกรรมฐาน กับบุคคลที่เชื่อมั่นในบุญแห่งการให้ทาน เช่น สังฆทาน ต่างกันอย่างไร แล้วจะเห็นผลในปัจจุบันหรือไม่ครับ ?
ตอบ : ถ้าจะเอาเป็นผลในปัจจุบันจริง ๆ คือ บุญกรรมฐาน ถ้าสามารถทรงฌาน ๔ หรือสมาบัติ ๘ ได้จะเห็นผลในปัจจุบัน

ถาม : แล้วอานิสงส์ของบุคคลที่นิยมการทำบุญ ๒ อย่างนี้ให้ผลแตกต่างกันอย่างไรบ้างครับ ?
ตอบ : ให้ทานจะรวย เรื่องบุญกรรมฐานจะช่วยในการตัดกิเลส เป็นคนละเรื่องกัน

เถรี 06-04-2015 21:11

พระอาจารย์กล่าวว่า “ในเรื่องของการถามคำถาม สิ่งที่ตอบไปจะพอดีอยู่แล้ว ถ้าพยายามไปแสดงความโง่ด้วยการออกความเห็นเพิ่มเติม อาจจะเป็นการตีความผิดและอาจจะทำให้คนอื่นเสียประโยชน์ไปด้วย เพราะฉะนั้น..ถ้าทำหน้าที่ถามอย่าพยายามเพิ่มความเห็นของตัวเองเข้าไป

ส่วนปัญหาหลายปัญหา ไม่ใช่ปัญหาแต่พยายามจะถาม ต้องบอกว่าถามแบบคนที่ขาดปัญญามาก เรื่องของการปฏิบัติ วิธีที่ดีที่สุดคือลงมือทำไม่ใช่ถาม การถามมีแต่จะพาให้ฟุ้งซ่าน โดยเฉพาะกำลังใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน อย่างเช่นถามว่าใช้เวลานานเท่าไร ไม่มีใครตอบคุณได้หรอก

เพราะกำลังใจแต่ละคนไม่เท่ากัน เหมือนที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสกับหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า “ถ้าปฏิบัติแบบนี้อีก ๑๐ ปีถึงจะเห็นหน้าเห็นหลัง” แต่หลวงพ่อท่านใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือน เนื่องเพราะว่าการพยากรณ์เป็นไปตามกำลังใจปัจจุบัน


อาตมาเคยเปรียบเทียบว่า เหมือนกับเราขับรถด้วยความเร็ว ๑๒๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นเวลา ๑ ชั่วโมงครึ่งจะถึงกาญจนบุรี แต่ถ้าเราลดความเร็วลงก็จะถึงช้ากว่านั้น ถ้าเพิ่มความเร็วขึ้นก็จะถึงเร็วกว่านั้น เป็นต้น จึงเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราล้วน ๆ หลายต่อหลายท่านปฏิบัติดีอยู่ในช่วงหนึ่ง ได้รับคำพยากรณ์จากเทวดา จากพรหมหรือจากพระ ว่าจะเข้าถึงมรรคผลเมื่อนั้นเมื่อนี้ เกิดความดีใจขึ้นมา เสร็จแล้วก็เอ้อระเหยลอยชายไป มั่นใจว่าได้แน่ ตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้ ๒๐ กว่าปีผ่านไปยังไม่ได้อะไรเลย เพราะว่าไปทิ้งความเพียรในการปฏิบัติของตัวเอง ต้องบอกว่าไปลดความเร็วของรถที่ตัวเองขับ ทำให้ถึงช้ากว่าที่ท่านพยากรณ์เอาไว้”

สายท่าขนุน 07-04-2015 00:47

อ้างอิง:

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เถรี (โพสต์ 137761)
ถาม : สัจจะสมมุติ หมายความว่าอย่างไร ?
ตอบ : ไม่เคยได้ยิน

ถาม : แล้วเราจะพิจารณาสัจจะสมมุติให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร ?
ตอบ : ต้องไปถามคนที่เคยได้ยิน

คำถามนี้ หากเป็นคำว่า "สมมติสัจจะ" นั้น พระอาจารย์เคยกล่าวถึงไว้แล้ว
ซึ่งท่านแนะนำว่า อะไรที่ได้เคยบอกไปแล้ว ให้ไปค้นหาในเว็บดูเองได้
จึงขอนำลิงก์ข้อความที่ท่านเคยกล่าวถึง "สมมติสัจจะ"
เฉพาะในส่วนของความหมายและการใช้ประโยชน์ มาบางข้อความ ดังนี้

๑) http://www.watthakhanun.com/webboard...read.php?t=483
๒) ข้อความที่ ๑๓ :
http://www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=1582
๓) ข้อความที่ ๑๔๘ :
http://www.watthakhanun.com/webboard...ad.php?p=89314

เถรี 07-04-2015 14:02

พระอาจารย์กล่าวว่า "ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เห็นการจองวัตถุมงคลในเว็บวัดท่าขนุนแล้ว ถึงได้เข้าใจที่เขาว่า "ไม่ดูตาม้าตาเรือ" เป็นอย่างไร เขาเขียนว่าปิดจองตัวเบ้อเริ่มเลย ก็ไม่มอง กูจะจองเสียอย่าง กติกาเขาระบุไว้ชัดเจนก็ไม่ฟัง ห้ามใช้เลขอารบิก ห้ามเขียนผิด ห้ามแก้ไขกระทู้ กูทำทุกอย่าง อย่างที่โยมเห็นนี่ บอกว่าหล่อพระเนื้อเงินแท้ ดันถวายมาทั้งทองเหลือง มาทั้งนาก กูจะหล่อเสียอย่าง"

เถรี 07-04-2015 14:06

"บางคนก็ไปเชื่อพ่อค้า เอาแผ่นเงินมาถวาย บอกว่าไปซื้อแผ่นเงินมา แต่พ่อค้าเอาแผ่นเคลือบเงินมาให้ ก็ดูไม่เป็น แผ่นเท่านี้ในท้องตลาดเป็นแผ่นทองเหลืองมีเงินเคลือบหน้าอยู่นิดเดียว แล้วที่เคลือบอยู่ก็ส่วนใหญ่ไม่ใช่เงินหรอก เขาเคลือบที่คนจีนเรียกแปะตั๊ง ก็คืออัลปาก้า"

เถรี 07-04-2015 14:08

พระอาจารย์กล่าวว่า "เรียนจบเมื่อไรจะไปผ่าตัดตาแล้ว ไม่อย่างนั้นสายตาแย่ลงไปเรื่อย ๆ อาตมาไปตัดหญ้าแล้วหินดีดเข้าตา ทำให้ตาแตก พอรักษาแผลหายแล้วปรากฏว่ากล้ามเนื้อยึดไม่เท่ากัน ตาเลยเอียงไปข้างหนึ่ง"

เถรี 07-04-2015 14:10

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวันที่ ๒๙ มีนาคมที่ผ่านมา ตอนหล่อสมเด็จองค์ปฐมเนื้อเงิน ขนาดหน้าตัก ๙.๙ นิ้ว ช่างเขาบอกว่าเตาหลอมร้อนมาก ต้นไม้อาจจะตายหมดสวนเลย อาตมาบอกกับช่างว่าต้นไม้ตายไม่เป็นไร ให้พระหล่อออกมาสำเร็จแล้วกัน

ปรากฏว่าก่อนถึงเวลาหล่อพระฝนกระหน่ำเสียหนัก ตกลงว่าไม่มีอะไรเสียหาย แม้แต่หญ้ายังไม่ตายเลย โดยปกติถ้าฝนตกก่อนหล่อพระนี่ช่างร้องไห้แล้ว เพราะว่าพอแบบเย็นแล้ว ส่วนใหญ่เนื้อโลหะจะแล่นไม่ถึงกัน ปรากฏว่าพระของเราออกมา ช่างใช้คำว่าสมบูรณ์พันเปอร์เซ็นต์ ออกมางามจริง ๆ เกือบไม่ต้องขัดแต่งเลย"

เถรี 07-04-2015 14:13

พระอาจารย์กล่าวว่า "โชคดีที่พระท่านอนุญาตให้สร้างตะกรุดมหาสะท้อนอีกรุ่น ไม่อย่างนั้นของเก่านี่แพงมาก เป็นวัตถุมงคลชนิดเดียวที่ทำถึง ๕ รุ่น ที่ผ่านมาอย่างอื่นทำเต็มที่ก็ ๒ รุ่น ยังไม่มีรุ่นที่ ๓ แต่สำหรับตะกรุดมหาสะท้อน ถ้ารวมรุ่นพิเศษด้วยก็ ๖ รุ่นเข้าไปแล้ว รุ่นพิเศษทำสำหรับบรรจุด้ามมีดหมอเพชราวุธ

ท่านที่จองตะกรุดมหาสะท้อนรุ่นนี้เอาไว้ ไม่ต้องรอถึงวันที่ ๒๐ มิถุนายน ตะกรุดมหาสะท้อน โดยปกติเป็นการเขียนแล้วเสกในตัว ไม่จำเป็นต้องมีพิธีใหญ่ ดังนั้น..ทันทีที่ทำเสร็จครบจำนวน อาตมาก็จะทำพิธีขอบารมีพระท่านเสกให้ แล้วแจกจ่ายให้กับผู้จองเลย"

เถรี 07-04-2015 14:21

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อวานวิ่งมาทางวัดไผ่โรงวัว ไปเห็นเขาสร้างบ้านไม้แล้วชอบใจ จึงสั่งให้เขาทำกุฏิรับรองขึ้นมาอีกหลัง เดือนที่แล้วเพิ่งตั้งกุฏิรับรองไป ๒ หลัง เนื่องจากว่าพระผู้ใหญ่เวลาไปวัดท่าขนุน ถ้าไปสัก ๓-๔ รูปขึ้นไป มักจะหาที่พักลำบาก จึงต้องตั้งเผื่อเอาไว้ก่อน"

เถรี 07-04-2015 14:25

พระอาจารย์กล่าวว่า "หนังสือคู่มือภาวนาพระคาถาเงินล้านเล่มที่ ๒ ที่พิมพ์ออกไป มีเนื้อหาเพิ่มเติมตอนท้ายมา โดยเฉพาะรูป พร้อมกับปรับปรุงลักษณะของรูปเล่มดีขึ้น เล่มนี้ขอ ๑๐๐ บาท เพราะว่าเป็นกระดาษอาร์ตทั้งเล่ม ใครที่ไม่ได้รับแจกเมื่อวันงานฉลองบ้านวิริยบารมี ก็เตรียมตัวควักกระเป๋าไปซื้อกันได้

วันงานอาตมาแจกไป ๒,๐๐๐ กว่าเล่ม การจัดรูปเล่มเกิดจากฝีมือ คุณนก (ชัญญา ดำรงค์วานิช) ออกแบบให้ จะเห็นว่ามีคั่นหัวเรื่องต่าง ๆ หน้าปกรูปพระปิดตาสวย ๆ ก็ฝีมือคุณนกทั้งนั้น ได้คุณนกมาช่วยงาน ทำให้การงานคล่องตัวและเบาแรงไปมหาศาลเลย โดยเฉพาะการติดต่อกับโรงพิมพ์ต่าง ๆ คุณนกจะมีความคล่องตัวในเรื่องนี้มาก"

เถรี 08-04-2015 09:47

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลายท่านไม่ค่อยดูตาม้าตาเรือ ถึงเวลาตั้งหน้าถามอย่างเดียว ทั้ง ๆ ที่คำถามนั้นเขาถามกันไปหลายต่อหลายครั้งแล้ว ในเว็บก็มีไม่ไปหาดู แม้แต่การจองวัตถุมงคลก็เหมือนกัน อย่างสมเด็จองค์ปฐมลอยองค์เนื้อทองคำ หมดไปตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เปิดจอง นี่ผ่านมาตั้งอาทิตย์หนึ่งแล้ว ยังตั้งหน้าตั้งตาจองเนื้อทองคำกันอยู่แหละ ก็ดีเหมือนกัน จองแล้วรู้สึกสบายใจว่าได้จอง กติกาเขาก็ระบุชัดว่าให้จองเนื้อเงินไม่เกินคนละ ๕ องค์ ตะบันมาถึงก็ “จอง ๑๐ องค์ครับ” บุคคลประเภทนี้ต้องบอกว่าสมควรตาย..!

ในเมื่อสภาพจิตของเราหยาบจนกระทั่งไม่ดูตาม้าตาเรืออะไรเลย ก็แปลว่าถ้าปฏิบัติธรรมไป โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมที่เป็นส่วนละเอียดก็ยาก โอกาสต่อไปโปรดดูตาม้าตาเรือด้วย คำว่า “ดูตาม้าตาเรือ” มาจากการเล่นหมากรุก เพราะถ้าไม่ดู เผลอวางขุนลงไปอาจจะตายฟรี เนื่องจากว่าเรือจะเดินเป็นแนวตรงตลอดเส้น ส่วนม้านั้นเดินตรง ๓ ขวาง ๒ ตกลงเล่นกันเป็นหรือเปล่า ? สรุปง่าย ๆ ว่าม้าเดินเป็นรูปตัว L ส่วนขุนสามารถเดินได้รอบตัว ตูว่าอธิบายไปก็เสียเปล่า..!

อาตมาไม่เคยเล่นหมากรุกมาก่อน ไปเล่นครั้งแรกตอนสมัยที่อยู่ชายแดน เพราะเพื่อนไม่มีคนเล่นด้วย ออกเวรแล้วก็นั่งเหงา ๆ เลยมาสอนอาตมาให้เล่นว่าตัวไหนเดินอย่างไร หลังจากที่รู้วิธีเล่น กระดานแรกอาตมายันเสมอกับเพื่อน กระดานที่ ๒ กินเพื่อนหมดตูดเลย สรุปว่าเพื่อนไม่รอบคอบ เพราะว่าการเล่นหมากรุกจะมีการ "ผูก" กันอยู่ ถ้าสมมติว่าเรากินตัวนี้แล้วเราจะเสียมากกว่า เราจะไม่กินก็ได้ ปล่อยยันกันไว้เป็นการผูกกันอยู่ ปรากฏว่าเพื่อนเผลอไปเลื่อน เมื่อโดนกินแล้วขาดทุนก็เป็นอันว่ากระจายทั้งกระดาน"

เถรี 08-04-2015 09:51

"ลักษณะของนักปฏิบัติธรรมก็เหมือนกัน ต้องพิจารณาให้รอบคอบและรอบด้าน ทันทีที่ขยับตัวเราต้องรู้ว่าศีลจะขาดหรือเปล่า ถ้ายังไม่สามารถทำถึงตรงจุดนี้ได้ ชีวิตนี้ยังเอาดีได้ยาก ถ้าเราขยับตัว สติรู้ตัวทั่วพร้อมว่าศีลจะบกพร่องหรือไม่ ? กาย วาจา ใจของเราจะเป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่นหรือเปล่า ? ถ้าลักษณะนี้พอที่จะเอาตัวรอดได้

ส่วนในเรื่องของสมาธิ ต่ำสุดต้องทรงปฐมฌานละเอียดได้ ไม่อย่างนั้นกำลังไม่พอที่จะสู้กับกิเลส เนื่องเพราะว่าการที่เราจะรู้ว่ากิเลสเข้าเมื่อไรนั้น อันดับแรกต้องมีสติ เมื่อมีสติรู้ตัวทั่วพร้อมอยู่ รัก โลภ โกรธ หลงเข้ามาจะรู้ทันที ก็ต้องมีข้อที่ ๒ คือสมาธิ ระงับยับยั้งตนเองไม่ให้ไหลไปตามกระแสกิเลสที่เข้ามาชักจูง

หลังจากนั้นก็ใช้ปัญญา ซึ่งเกิดจากความสงบของจิตด้วยอำนาจของสมาธิ ในการห้ำหั่นตัดฟันกิเลสตัวนั้น ๆ ด้วยกรรมฐานคู่ศึก อย่างเช่นว่า ถ้าโกรธก็ต้องแผ่เมตตา หรือว่าถ้าเกิดราคะขึ้นมาก็ต้องพิจารณาในกายคตาสติและอสุภกรรมฐาน เป็นต้น จนกระทั่งสามารถระงับยับยั้ง หรือว่าตัดกิเลสนั้นลงได้

แรก ๆ อย่าพึงหวังว่าจะตัดได้ทีเดียว เราสามารถระงับไม่ให้กิเลสกำเริบได้ถือว่าสุดยอดแล้ว หลังจากนั้นก็หาวิธีค่อย ๆ ขัด ค่อย ๆ เกลาไป แต่ถ้าใครกำลังสมาธิสูงพอ มีความคล่องตัวในการเข้าออกฌานสมาบัติได้อย่างใจของตน จะสามารถระงับกิเลสได้ทันท่วงทีทุกครั้ง แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะถ้าเผลอสติ ต่อให้ทรงสมาธิได้สูงขนาดไหน ถ้าโดนกำลังของกิเลสตีกลับมาท่วมทับ กำลังสมาธิไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เราก็ต้องไปทนทุกข์ทรมานกับกิเลสที่จะมาทำลายเรา ทำร้ายเราอีก"


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:04


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว