กระดานสนทนาวัดท่าขนุน

กระดานสนทนาวัดท่าขนุน (https://www.watthakhanun.com/webboard/index.php)
-   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน (https://www.watthakhanun.com/webboard/forumdisplay.php?f=39)
-   -   เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุุกร์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๑ (https://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=6292)

เถรี 09-08-2018 09:43

เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันศุุกร์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๑
 
ให้ทุกคนตั้งกายให้ตรง กำหนดสติคือความรู้สึกของเราเอาไว้ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจเข้าไป หายใจออก...ให้ความรู้สึกทั้งหมดของเรา ไหลตามลมหายใจออกมา จะใช้คำภาวนาอะไรก็ได้ ที่เรามีความถนัด มีความชำนาญมาแต่เดิม

วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ ๓ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๖๑ ช่วงนี้ในบ้านของเราก็ดี รอบบ้านของเราก็ดี มีภัยธรรมชาติต่าง ๆ เกิดขึ้นมาก โดยเฉพาะเรื่องของน้ำท่วม เรียกง่าย ๆ ว่าประเทศในอาเซียนโดนกันถ้วนหน้า เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เกิดขึ้นเราต้องเข้าใจว่าเกิดจากวาระกรรมเก่าที่เราได้สร้างเอาไว้

โดยเฉพาะในส่วนของอทินนาทาน คือ หยิบฉวย ช่วงชิง ลักขโมยสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ ถ้าหากว่าทำกันเป็นหมู่คณะใหญ่ ๆ อย่างเวลาเกิดศึกเกิดสงคราม ปล้นบ้านตีเมืองคนอื่นเขา เมื่อถึงเวลาก็ต้องรับกรรมเหล่านั้นพร้อม ๆ กัน

คราวนี้ในเรื่องของภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ถ้าหากว่าเราจะเอาประโยชน์ก็คือ ต้องพิจารณาให้เห็นว่า การเกิดขึ้นมาของเรานี้ ต้องพบกับเรื่องที่เป็นทุกข์เป็นโทษเช่นนี้เป็นปกติอยู่แล้ว เกิดมาเมื่อไรชาติไหนก็ตาม ถ้าหากว่ากรรมทั้งหลายเหล่านี้ยังตามอยู่ ยังส่งผลอยู่ เราก็ต้องพบกับเรื่องแบบนี้ ต้องมีแต่ความทุกข์ยากแบบนี้ แม้กระทั่งชาตินี้ของเรา เราก็ต้องทุกข์ยากเดือดร้อนในเรื่องของภัยธรรมชาติเช่นกัน ดังนั้น..ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาสำหรับเรา แล้วจะต้องประสบกับความทุกข์เช่นนี้จะไม่มีสำหรับเราอีก เราปรารถนาที่เดียวคือพระนิพพาน

เถรี 09-08-2018 23:38

คราวนี้การที่เราจะหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานได้ ก็ต้องมีความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างจริงใจ ไม่ล่วงเกินทั้งต่อหน้าและลับหลัง ต้องมีศีลทุกสิกขาบทบริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตัวเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล ไม่ยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล

และท้ายสุดต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ตายเมื่อไรต้องกำหนดเป้าหมายไว้ว่า ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนเช่นนี้ จะไม่มีสำหรับเราอีก การเกิดมามีร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์เช่นนี้ จะไม่มีสำหรับเราอีก ขึ้นชื่อว่าภัยธรรมชาตินั้นเป็นแค่ภัยภายนอกเท่านั้น ภัยภายในคือกิเลสใหญ่ รัก โลภ โกรธ หลง เป็นเรื่องที่น่ากลัวกว่ามาก เกิดมาเมื่อไรก็ต้องพบกับการชักจูงให้เรากระทำแต่สิ่งที่ไม่ดี แล้วต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้จบ

ดังนั้น..ขึ้นชื่อว่าการเกิดมามีความทุกข์เช่นนี้เราไม่พึงปรารถนาอีกแล้ว เราต้องการอย่างเดียวคือพระนิพาน เมื่อสามารถรักษาสภาพของจิตใจเราเอาไว้เช่นนี้แล้ว ก็กำหนดภาพพระองค์ใดองค์หนึ่งที่เรารักเราชอบขึ้นมา ว่านั่นคือองค์แทนสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบนพระนิพพาน เรานึกถึงพระองค์ท่านได้ เราเห็นพระองค์ท่านได้ แปลว่าเราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน เราอยู่ใกล้กับพระองค์ท่าน แปลว่าเราอยู่บนพระนิพพาน

ในแต่ละวันพยายามที่จะรักษากำลังใจของเราเอาไว้เช่นนี้ ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าหากว่าสามารถกระทำได้บ่อย ๆ จนกระทั่งนึกถึงเมื่อไรก็ทำได้เมื่อนั้น โอกาสที่ท่านทั้งหลายจะล่วงพ้นจากความทุกข์ ไม่มาเกิดในโลกที่เต็มไปด้วยทุกข์โทษเวรภัยเช่นนี้ก็จะมีขึ้น ก็จะเกิดขึ้น ถ้าหากว่าตายลงไปเมื่อไร เราก็จะล่วงพ้นกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน

ลำดับต่อไปให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาหรือพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๑

(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทาริกา)


เวลาทั้งหมดอยู่ในเขตเวลา GMT +7 และเวลาในขณะนี้คือ 19:00


ค้นหาในเว็บวัดท่าขนุน

เว็บวัดท่าขนุน Powered by vBulletin
Copyright © 2000-2010 Jelsoft Enterprises Limited.
ความคิดเห็นส่วนตัวทุก ๆ ข้อความในเว็บบอร์ดนี้ สงวนสิทธิ์เฉพาะเจ้าของข้อความ ไม่อนุญาตให้คัดลอกออกไปเผยแพร่ นอกจากจะได้รับคำอนุญาตจากเจ้าของข้อความอย่างชัดเจนดีแล้ว